ขอบคุณพี่สังขวานร เเละขอบคุณเจ้าสำนักที่กรุณาเพิ่มเติมข้อมูล
ข้อสังเกตต่อไป
๑ ตัว ปะ บางจะถูกยืมไปใช้เป็นตัว บะ เเละถ้าคำไหนที่ใช้ตัว บะ เป็นตัวสะกด ก็จะมีการยืมตัวเชิงของตัว ปะ ไปเป็นตัวสะกดเเทน
บางครั้งจะมีการเน้นตัว ปะ โดยมีเครื่องหมายบนตัวอักษรคล้ายตัวการันต์ เพื่อเน้นว่า ตัวนั้น คือ ตัว ปะ
เเละตัว ปะ หรือ บะ จะถูกยืมมาใช้เป็นตัว ษะ โดยเพิ่มขีดกลางตัวอักษร ตามภาพ เเละ
ถ้าคำใดมีตัวสะกดเป็นตัว ษะ เนื่องจากตัว ษะ ไม่มีตัวเชิง ก็จะยืมตัวเชิงของตัว สะ มาสะกดเเทน
๒ ตัวปะ เมื่อผสมสระเป็นตัว ปา หรือ โป จะมีรูปเเบบเฉพาะตัวตามที่เขียน ถ้าเราเอาตัวปะ มาผสมสระอา
เขียนเเบบทั่วไป ก็จะดูเหมือนกับตัว หะ คาดว่ารูปเเบบคงจะซ้ำกัน จึงมีการกำหนดเเบบใหม่ของคำว่า ปา
๓ ละ ลา เเละ ณะ ณา สังเกตความเเตกต่างของรูปเเบบ เเละเวลาผสมสระ เพราะ คำว่า ลา กับ ณะ จะคล้ายกัน
เเตกต่างตรงที่ ตัว ณะ มีหยักตรงกลางตัว ตัว ลา ไม่มี
๔ ตัว วะ เมื่อผสมสระเป็นตัว วิ จะไม่มีหยักเเละตวัดปลายลงล่างดังรูป ถ้าเป็นวี ก็เพิ่มขีดสระอี เข้าไป
สังเกต ตัว วา เเละ รา จะคล้ายกัน เเยกเเยะโดย ตัว วะ โค้งๆ หัวใหญ่ๆ ตัว ระ ตัวตรงเเบบ ร เรือของเรา
๕ ตัว สะ เมื่อเป็น สิ หรือ สี ก็จะตัดหัวต่อด้านซ้ายออก เเล้วใส่ สระอิ หรือ สระอี เเทน
๖ ตัว เอ ใช้ตัวอะ ผสมสระ เอ หรือ มีตัวเอ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมือนกับ ตัว โอ ใช้ อะ ผสมสระโอ หรือ
ใช้ตัว โอ ที่กำหนดไว้ก็ได้