ขอบคุณครับ...คุณ Tongn005 เรามาเจอกันรู้จักกันได้เพราะบารมีของ
หลวงพ่อกวย แท้ๆครับ ที่ได้พาเราทั้งหมดนี้มารู้จักกัน ไม่ไช่พี่ก็เหมือนพี่ ไม่ใช่น้องก็เหมือนน้อง (บางทีสนิทกว่าคนข้างบ้านเสียอีก) ผมรู้จักหลวงพ่อกวยมานาน จากพี่เขยของเพื่อนรุ่นพี่ท่านหนึ่ง(ไว้เล่าให้ฟังทีหลังนะครับว่าเล่ายังไงบ้าง) แต่ผมไม่รู้ว่าจะศึกษาแนวทางจากที่ไหน ผมเลยไม่กล้าเล่นหา พูดตรงๆว่ากลัวโดนครับ ผมก็ได้ความรู้จากหนังสือคเณศ์พรเป็นเล่มแรก แล้วก็คุณ tongn005 นี่แหละครับที่ชี้แนะเสมือนเป็นครูคนหนึ่ง และคนแรกของผม เลยครับ และตอนหลังได้รู้จักได้เจออีกหลายๆท่านอย่าง คุณ นเรศ คุณ พงษ์เวสม์ คุณ ชวลิต ฯลฯ ก็ได้ให้คำแนะนำดีๆอีกหลายอย่างครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่กล่าวนามครับ
ขอบคุณจริงๆครับ
ขอเสริมเรื่องกระดูกงูเหลือมอีกเรื่องครับครับ
กระดูกงูเหลือม บางคนใช้ทำแซ่ก็มี ทำเข็มขัดก็มีแล้วแต่ลงของบ้างไม่ลงของบ้าง และก็ใช้ทำยานี่แหละครับ วิธีการร้อยเท่าที่ผมพอรู้มาเขาจะเอางูที่ตายฝังดินไว้เป็นเดือนเลยครับ เพื่อให้ย่อยสลายลงไปเอง พอได้ระยะเวลาแล้วก็ไปค่อยๆขุดดินตรงนั้นออก กระดูกงูก็จะเรียงตัวเป็นข้อๆอยู่ แล้วก็จับร้อยเชือกตามลำดับ ถ้าทำเข็มขัดก็วัดเอาแค่เอวของผู้ใช้ ส่วนหัวนิยมทำเป็นหัวตะกร้อด้านนึง ส่วนอีกด้านนึงทำเป็นห่วง แล้วให้อาจารย์ที่มีวิชาลงของให้ ส่วนทำยานั้น ของที่มาจากสัตย์ เช่น กระดูกงูเหลือม,เขากวาง,เขาควายเผือก,มักไว้ทำยาแก้ ทราง ครับ (ทราง = กินข้าวไม่ได้,พุงโลก้นปอด,กินข้าวแล้วไม่อ้วน,ผอมแห้ง,)