เค้าว่าศรัทธาความเชื่อควรอยู่คู่กับหลักเหตุผล คล้องพระไว้เตือนสติ มิให้ทำชั่ว ให้เป็นคนเกรงกลัวบาป รู้จักละอายใจถ้าหากจะคิดทำในสิ่งไม่ดี
สมัยตอนผมเป็นเด็กๆ ตามความคิดแบบคนทั่วไป ไปไหนมาไหนต้องมีพระติดตัวเพื่อหวังพุทธคุณให้ท่านคุ้มครองเราให้ปลอดภัยจากภัยและอุบัติเหตุต่างๆทั้งปวง คล้องพระต้องมีธรรมมะในใจ ต้องเป็นคนกตัญญูรู้คุณพ่อแม่และผู้มีพระคุณแก่เรา เป็นสิ่งที่ผมยึดมั่นมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มโตและเริ่มมีความคิดแบบผู้ใหญ่ ผมเชื่อว่า ถ้าเราเป็นคนดี พระท่านย่อมคุ้มครองเรา อย่างหลายๆท่านที่เป็นคนดี ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม ทำนองนี้ เรียกว่า ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ หรือธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม แม้ท่านจะไม่มีพระเครื่องติดตัวก็ตาม แต่อำนาจแห่งความดีและอานุภาพแห่งธรรมย่อมเป็นเกราะป้องกันภัยให้ท่านๆเหล่านั้น คนโบราณเรียกว่า คนดี ผีและเทวดาท่านรักและคอยคุ้มครอง
หลายๆท่าน คงจำกระทู้ตามลิงค์ด้านล่างนี้ได้ ที่ผมเคยลงไว้เมื่อปีที่แล้ว ของขวัญแด่ผู้มีพระคุณ
หลายปีก่อน สมัยที่ผมเคยใช้ชีวิตอยู่ต่างแดน ครอบครัวของพี่ ว ได้เคยมีน้ำใจ ช่วยเหลือผมมาโดยตลอด พี่ ว เป็นคนไทยมีสามีเป็นคนเยอรมัน ทั้งสองท่านมีน้ำใจแก่ผม มีบุญคุณแก่ผมอย่างมาก ตั้งแต่วันที่ผมเหยียบย่ำไปในต่างแดน จนถึงวันสุดท้ายที่กลับมาบ้านเรา
http://www.watkositaram.com/forum/index.php?topic=7796.0รูปถ่ายหลวงปู่กวยพร้อมทององค์นี้ จึงเป็นของขวัญชิ้นที่มีค่าที่ผมได้มอบให้พี่ ว ไว้เพื่อคุ้มครองตัว ผมมั่นใจว่า นั่นเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับบุคคลที่มีพระคุณแก่ตัวผม
เรื่องราวที่ผมจะนำเสนอนี้ หวังว่าคงจะเป็นอุทธาหรณ์แก่ทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านข้อความในกระทู้นี้ของผม ในเรื่องของการทำความดี จะว่าบังเอิญหรือคงเพราะอำนาจบารมีของหลวงปู่กวยด้วยหรือเปล่าที่ทำให้บางสิ่งบางอย่างของพี่ ว เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย
ที่เมืองWiesbaden เมืองหลวงของรัฐ Hessen ของประเทศเยอรมนี เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว เช้าวันหนึ่งของฤดูหนาว ท่ามกลางหิมะและความหนาวเย็น ขณะที่ผู้คนต่างสัญจรไปตามถนนที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็ง ชายชราคนหนึ่ง แต่งตัวซอมซ่อขี่จักรยานไปตามถนน รถจักรยานเกิดลื่น ล้มลง ข้าวของที่หอบหิ้วมากระจัดกระจายไปตามพื้น
ขณะที่ชายแก่กำลังพยายามพยุงตัวเอง เพื่อที่จะลุกขึ้นและเก็บข้าวของที่ระเนระนาด ผู้คนต่างๆที่เดินผ่านไปผ่านมา ไม่มีใครสักคนที่จะหยิบยื่นน้ำใจช่วยเหลือชายแก่คนนี้ พี่ ว เห็นเหตุการณ์นี้มาโดยตลอด ได้เข้าไปช่วยชายชราท่านนี้ และช่วยเก็บของต่างๆที่กระจายเต็มพื้น ชายชราได้ขอบอกขอบใจ และกำลังจะลาจาก ด้วยความสงสาร พี่ ว จึงเอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วงว่ากินอะไรหรือยัง อากาศหนาวๆ พี่ ว จึงชวนคุณตาท่านนี้ ไปที่ร้านกาแฟใกล้ๆ พร้อมซื้อกาแฟให้แกกับขนมเค้กชิ้นเล็กๆ เพื่อให้คุณตาได้คลายความหิวและความหนาว หลังจากที่ได้คุยกัน ทั้งสองก็แยกกันกลับบ้าน
สองสามวันต่อมา พี่ วได้เข้าไปซื้อของในตัวเมือง ก่อนกลับบ้าน ได้แวะเข้าไปร้านขายเครื่องสำอางค์ พี่ ว หยิบน้ำหอมขวดหนึ่งขึ้นมาดูด้วยความอยากได้ แต่ก็ต้องตัดใจวางลง เพราะว่า ราคาแพงมาก ขวดนึงตั้ง 100 ยูโรเศษๆ ( 1ยูโร เท่ากับ 40บาท ) พี่ ว ไม่รู้ตัวหรอกว่า ขณะนั้น มีใครบางคนกำลังมองดูอยู่ คนๆนั้นก็คือ คุณตาที่พี่ ว เคยไปช่วยนั่นเอง หลังจากที่พี่ ว วางขวดน้ำหอมขวดนั่น คุณตา ได้เรียกพนักงานขาย ให้ไปหยิบน้ำหอมขวดนั้นมาให้กับพี่ ว พร้อมกับจ่ายเงินให้ด้วย พี่ ว แปลกใจและต่อว่า ซื้อให้ทำไมและมันก็ราคาแพงด้วย ในใจนึกว่าชายแก่คนนี้ยังปรกติดีอยู่หรือเปล่า คุณตาจึงบอกไปว่า พี่ ว เคยช่วยแก แกจึงขอตอบแทนน้ำใจ เงินแค่นี้เล็กน้อยสำหรับแก
หลังจากที่ได้พบและพูดคุยกับคุณตาอยู่มานาน ความจริงก็ปรากฎ เมื่อพี่ ว ได้ไปเยี่ยมคุณตาที่บ้าน คุณตาแก่ๆ แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเก่า ขี่จักรยานเก่าๆ แต่บ้านของคุณตา หลังใหญ่มาก บ้านสวยๆหลังโตพร้อมสวน รถยนต์ใหม่ๆ มีใช้พร้อมครบครัน
คุณตาในวัยเกษียณคนนี้ เป็น เจ้าของบ้านหลังใหญ่ เจ้าของที่ดินและหุ้นอีกมากมาย คุณตาบอกว่า ตัวเขาเป็นคนประเทศที่เจริญ ทำงานเสียภาษีให้รัฐ วันที่รถจักรยานล้ม ทำไม่ไม่มีใครมีน้ำใจช่วยเลย แม้กระทั่งคนอื่นๆที่เป็นคนชาติเดียวกัน ก็ไม่มีใครสนใจเลย แต่หญิงเอเชีย คนไทยคนนี้ กลับมีน้ำใจช่วย และยังเป็นห่วงพาแกไปกินกาแฟด้วย คุณตาบอกว่า รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของพี่ ว มากๆ และรู้สึกรักพี่ ว เหมือนลูกหลานคนนึง ถ้า พี่ ว มีปัญหาเรื่องใด คุณตาจะช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ
ตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ไปมาหาสู่ ไปดูแลคุณตาซึ่งมีโรคประจำตัว พี่ ว คอยเอาใจใส่ดูแล เหมือนกับญาติผู้ใหญ่คนนึง คุณตาก็ทราบเรื่องราวสารทุกข์สุกดิบต่างๆของพี่ ว ซึ่งช่วงนั้น พี่ ว ก็กำลังมีปัญหาหนักๆอยู่หลายอย่าง ในเวลาสามเดือนนั้น คุณตาได้เมตตาช่วยเหลือพี่ ว ในเรื่องต่างๆ พร้อมให้ของขวัญเป็นรถยนต์ราคานับล้านบาทด้วยหนึ่งคัน รวมกับเงินช่วยเหลือต่างๆ รวมทั้งหมดเป็นเงินถึงสองล้านบาท และคุณตายังคอยช่วยเหลืออุปถัมน์ครอบครัวที่ ว มาโดยตลอด
ช่วงนั้น ผมได้มอบรูปถ่ายหลวงปู่กวยให้พี่ วไป พี่ ว ก็คล้องติดตัวตลอด เวลามีปัญหา หรือ ต้องการสิ่งใด ก็ตั้งจิตอธิษฐานขอกับหลวงปู่กวย ก็ได้ทุกสิ่งอย่างที่ตั้งความปรารถนาไว้ พี่ ว นับถือและเชื่อมั่นในองค์หลวงปู่กวยเป็นอย่างมาก
แทบไม่น่าเชื่อเลย ว่ากาแฟถ้วยนั้น ที่พี่ ว หยิบยื่นให้กับคุณตาชายชราท่านนั้น มันสนองกลับมาด้วยคุณค่ามากมายจริงๆ พี่ ว บอกว่า เพราะความมีน้ำใจของแก และอาศัยบารมีหลวงปู่กวยด้วย จึงทำให้ชีวิตของแก ได้พบกับความเปลี่ยนแปลงมากมายอย่างนี้
เรื่องราวที่ผมได้นำเสนอมานี้ คงให้แง่คิดหลายอย่างแก่ท่านสมาชิก คงไม่ว่ากันนะครับ ที่ขออนุญาตนำเสนอในหน้ากระดานนี้ หลายๆท่านจะคิดอย่างไร ทัศนะคติอาจหลากหลาย ก็เป็นเรื่องของนานาจิตตัง
แต่สิ่งนึงที่ผมมั่นใจ จากประสบการณ์หลายๆอย่างที่เคยพบมา รวมทั้งแง่คิดจากเรื่องของพี่ ว นี้ ผมเชื่อมั่นในอำนาจแห่งคุณงามความดี และเชื่อมั่นในอิทธิคุณบารมีของหลวงปู่กวยอย่างมั่นคงแน่นอน