กระดานสนทนา วัดโฆสิตาราม (บ้านแค) จ.ชัยนาท

ผมเป็นน้องใหม่ที่พึ่งศึกษาประวัติหลวงพ่อกวยและมีความศรัทธาในปฏิปทาของท่านอย่างมาก ผมได้เจอเวปนี้โดยการแนะนำของพี่พงเวศน์เมื่อไม่นานนี้เองครับ จากนั้นก็ได้อ่านประสบการณ์และเรื่องต่างๆจากพี่ ๆ โดยเฉพาะคุณ travellerman ประสบการณ์ 5 วันนั้น ทำให้ผมเองอยากไปเจอประสบการณ์ด้วยตนเองบ้าง ครั้งแรกที่คิดจะไปเป็นวันที่ 2 - 3 ก.พ.51 ที่ผ่านมาปรากฎว่าไม่สามารถไปได้เนื่องจากติดภาระกิจและไปนมัสการพระพุทธชินราชที่ จ.พิษณุโลก  ต่อมาก็อธิษฐานหลวงพ่ออีกว่าอยากไปที่วัดโฆษิตารามนมัสการศพหลวงพ่อ พอวันศุกร์ที่ 8 ก.พ.51 ก็ลังเลใจว่าวันเสาร์นี้ไปหรือไม่ไปจนกระทั่งตื่นเช้ามาเหมือนหลวงพ่อมาดลใจตัดสินใจทันควรว่าจะไปและกลับมาให้ทันวันเสาร์ หากเลยเวลากะว่าจะนอนค้างคืนที่วัดเลยครับ  ผมเริ่มนั่งรถจาก จ.ตากตั้งแต่เวลา 07.20 น.ถึงปากทางชัยนาทเวลา 11.30 น. รอที่ปากทาง 15 นาที นั่งมอเตอรไซด์เข้าไปอีก 11 กม.ที่ท่ารถบขส.
ได้เวลาทานอาหารพอดี 12.00 น. กินข้าวไปครึ่งจานก็ต้องรีบขึ้นรถสายสรรค์บุรี สาย 8 ลงแยกโพธิ์งามเหมือนภาพที่คุณ travellerman แต่ผมไม่มีกล้องเลยไม่มีรูปนั่งรถมอเตอร์ไซด์ต่อไปที่วัดโฆษิตารามประมาณ 6-7 กิโล บรรยากาศสวยงามเป็นท้องทุ่งเขียวขจีกลิ่นข้าวหอมอบอวลสดชื่นบอกไม่ถูกครับ กว่าจะได้มาถึงเหนื่อยเอาการครับมาถึงที่วัดก็ไม่รอช้าเข้าไปกราบศพหลวงพ่อก่อนเลยครับที่เขาย้ายมาอยู่อาคารหลังใหม่แล้วครับ ไม่ได้รอดศพอย่างที่คิดไว้แต่ก็ดีใจที่ได้มาทำบุญร่วมกับหลวงพ่อด้วย

เยี่ยมครับ ยินดีด้วยครับที่ได้พบหลวงพ่อองค์จริงๆ หลวงพ่ออยู่ที่นี่แหล่ะครับ  ;)

ขอบคุณมากครับ ขอเล่าต่อนะครับว่าเริ่มมีสิ่งที่ดี ๆ ในการไปครั้งนี้ก็คือผมไปดูที่ตู้พระของหลวงพ่อรุ่นใหม่ ๆ ปรากฎว่าเจอล็อตเกตหลวงพ่อสวยมากไม่รู้สร้างปีไหนก็สอบถามพระท่านที่ดูแลอยู่ว่าสร้างเมื่อไรบูชายังไง โชคดีครับเป็นล็อตเกตที่ทางวัดสร้างเพียง 35 องค์ รายได้ซื้อคอมพิวเตอร์ให้นักเรียนโรงเรียนวัดโฆษิตาราม ล็อตเกตนี้มีความพิเศษใส่มวลสารเพียงอาทิ ผงจินดามณี ผงพุทธคุณ เกศาหลวงพ่อ จีวรหลวงพ่อ กำมะหยีที่ปูร่างศพหลวงพ่อของเดิม ปลุกเสกเดี่ยวโดยหลวงปู่ทิมวัดพระขาวอยุธยาดีใจมากครับ ตอนแรกท่านพูดว่าทำบุญ 3,000 บาท ตกใจหมดเพราะมีเงินแค่ 800 บาทเอง หลวงพี่บอกว่าจองไว้ก่อนแล้วค่อยมาจ่ายตอนรับพระทีหลัง โชคดีจังครับแถมยังมีโอกาสเลือกเลขสวย ๆอีกด้วย เลยจองไว้ 1 องค์ หมายเลข 3  เสร็จแล้วเวลานั้นก็ร่วมบุญกับหลวงพ่อตามกำลังศรัทธาทุกอย่างที่เห็นตู้ใส่ตู้ให้หมดชื่นใจจริง ๆ  แล้วก็นึกถึงเวปนี้ว่ามีลุงคนหนึ่งที่สักยันต์เหลือคนเดียวที่สืบทอดการสักมาจากหลวงพ่อกวย คือ ลุงหล่อนนั่นเอง ก็สอบถามว่าบ้านแกอยู่ที่ไหนเพราะเราเป็นคนชอบเรื่องแบบนี้อยู่แล้วครับ เมื่อทราบว่าอยู่ไม่ไกลจากวัดก็ออกเดินทางไปบ้านลุงหล่อน หลวงพี่แอบกระซิบว่าระวังหมาดุ หมากัดนะ ผมก็กล้า ๆ กลัว ๆ ก็นึกว่าหลวงพ่อให้กล้าไม่ต้องกลัวหมาทำใจดีสู้เสือไว้ดีกว่าออกเดินทางไปถึงงงอยู่พักเพราะหน้าบ้านแก่มีแต่รั้วหาทางเข้าไม่เจอปรากฎว่าต้องเข้าตรอกเล็กเป็นทางเข้า  สิ่งที่เจอไม่ใช่หมาเป็นลูกสาวของลุงหล่อนหมาที่ดุถูกมัดแล้วแต่มีหมาที่เห่าอยู่ประมาณ 3 ตัว เราถือว่าหมาเห่าไม่กัดเดินเข้าไปหาเลยครับ  ลูกสาวลุงหล่อนถามคำแรกว่า มาหาของหรือเปล่า งงมากครับว่าของอะไร ก็ตอบว่าไม่ใช่จะมาหาลุงหล่อนเรื่องสักยันต์ ลุงหล่อนพึ่งออกไปเมื่อกี้นี้เองตอนนี้ก็บ่าย 3 แล้วสงสัยต้องนอนพักแน่เลย  ปรากฎว่าไม่เกิน 3 นาที ลุงหล่อนปั่นจักรยานรุ่นคุณพ่อยังหนุ่มเข้าบ้านมาพอดีเลยครับ  โชคดีรอบที่ 2 คุยกับลุงหล่อนเรื่องการสักยันต์พอทราบว่ามีคนมาขอแกเรียนการสักยันต์เยอะมากไม่ว่าจะเป็นพระ หรือฆราวาส  แต่ลุงไม่สามารถถ่ายทอดให้ได้เนื่องจากไม่ได้รับคำสั่งจากหลวงพ่อไว้แต่แรกจึงไม่กล้าทำ  สนทนาสักพักก็ถามว่า ตอนนี้พอจะสักยันต์ได้ไหมครับลุงบอกว่าได้ยังสว่างอยู่เลย วันนี้เป็นคนแรก ทุกครั้งถ้ามาก็อย่างน้อย 3-5 คนหรือมากกว่านี้ ถือว่าโชคดีที่ไม่ต้องไปรอใคร ลุงหล่อนก็จัดแจงอุปกรณ์และให้เลือกแบบยันต์ต่าง ๆประมาณ 6-7 แบบ

อู้...ชอบ ๆ ต่อเลยครับ ๆ   ;)

โอเคได้เลยครับท่านพี่ ;D แบบที่ 1 ยันต์ 5 หรือยันต์หลังปรกโพธิ์เก้าใบ แบบที่ 2 ยันต์เมตตาสัก 2 ที่คือหน้าอก และแขนด้านขวากมือ แบบที่ 3 ยันต์เก้ายอด หรือ เจ็ดยอด  แบบที่ 4ยันต์หนุมาน  แบบที่ 5 ยันต์เสือเผ่น  แบบที่ 6 ยันต์หงษ์  แบบที่ 7 ยันต์สิงห์ แต่ละแบบมีพุทธคุณป้องกันคุ้มครองภัยวันนี้ผมเลือก 2 ยันต์ตามคำแนะนำของพี่พงเวศน์คือ ยันต์ 5 เป็นยันต์ครู และยันต์เมตตาสัก 2 ที่ ซึ่งแท้ที่จริงผมก็ไม่เคยสักยันต์แบบนี้ซักทีกลัวเจ็บเหมือนกันครับ ลุงหล่อนก็คุยกันเล่น ๆ ว่าดีแล้วสักน้อย ๆ ดูก่อนถ้าไหวค่อยสักยันต์ที่มีตัวใหญ่อักขระเยอะ เหมือนเพลงที่บอกว่าขอมังกร 5 หัว กลายเป็นจิ้งจกแทน   ครั้งแรกที่เข็มสัมผัสผิวเนื้อสุดยอดเลยครับเหมือนโดนมีดกรีดผิวหนังเลยครับต้องอาศัยคำภาวนาเข้าช่วย พุทโธ ไปเรื่อย ๆ โชคดีว่าไม่เลือกยันต์ใหญ่ ๆ สงสัยแย่เลยเรา แต่ยันต์ 5 นี้ใช้เวลาประมาณ 5 นาที เสร็จครับไม่เยอะมาก ก็เลยเอายันต์ต่อเมตตาครับสักที่อกและที่แขนขวา ที่อกนี้ก็เจ็บมากกว่าข้างหลังอีกครับแต่ก็อดทนสู้สุดฤทธิ์ สักที่แขนขวาต่อก็ไม่เท่าไหร่สงสัยจะเริ่มชิน ตอนแรกนึกว่าเสร็จแล้วปรากฎว่า ลุงหล่อนบอกต้องสักที่กะหม่อนอีกสมัยหลวงพ่อกวยท่านให้โกนผมเฉพาะที่จะสักเป็นรูปวงกลมกลางหัวเลยแต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้อง ก็คิดว่าคงไม่เจ็บเท่าไหร่แต่ผิดคาดโดนเข็มสักที่กะหม่อนนี่เจ็บสุด ๆ เหมือนกันโชคดีที่ยันต์มีตัวเดียวเลยอดทนไหว  ถึงตอนนี้ลุงก็ให้เปลี่ยนผ้านุ่งผ้าขาวม้าตัวเดียวอาบน้ำมนต์ครับ หลังอาบเสร็จลุงหล่อนก็ให้เปลี่ยนผ้าขาวม้าอีกผืนหนึ่งแล้วเข้าห้องพระต่อก็แปลกใจแต่ก็เข้าใจเมื่อลุงบอกว่าต้องมีการปลุกเสกยันต์ที่สักด้วย ลุงหล่อนก็ทำพิธีจุดธูปเทียนไหว้พระและเอาน้ำมันมาถูที่ตามรอยที่สักไหวพร้อมบริกรรมคาถา  จากนั้นก็บอกข้อห้ามต่าง ๆให้ฟัง สุดท้ายก็ต้องนอนพักที่บ้านลุงหล่อนตอนแรกว่าจะนอนวัด แต่คิดอีกทีไม่กล้ารบกวนพระท่านนอนที่บ้านลุงหล่อนสบายกว่า  ลูกชายลุงหล่อนและแฟนต้อนรับอย่างดีเลยครับรู้สึกสบายใจพูดคุยเป็นกันเองครับปูที่นอนกางมุงให้เรียบร้อยเลย เราจะไปช่วยก็บอกว่าไม่ต้องเกรงใจ บ้านลุงหล่อนใต้ถุนจะยกสูงมากส่วนมากลูกสาวลูกชายจะนอนใต้ถุนดูแลของในบ้าน ทีวีก็มีให้เปิดดูแต่ก็ดูนิดหน่อยพอดีเอาหนังสือธรรมะมาอ่านก็เลยไม่ค่อยดูครับ ค่ำคืนที่นอนบ้านลุงหล่อนก็มีฝันแปลกอยู่อย่างหนึ่งว่า ในฝันไม่รู้ว่าใครเข้ามาในมุงมาเป่ากะหม่อมให้เหมือนจะเป็นลุงหล่อนก็ไม่แน่ใจแต่มาดีไม่ได้มาร้ายแต่ประการใด ตอนเช้าตื่นมาอากาศสดชื่นมากครับคนในบ้านตื่นเช้ากันหมด ผมตื่น 6 โมงเช้าเป็นปกติเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย

ประสบการณ์แบบนี้หาซื้อไม่ได้ครับ ต้องหาเอง ยอดเยี่ยมครับ  ;)

เล่าต่อให้จบเลยทีเดียวครับ เช้าวันอาทิตย์นี้ตื่นมาก็เจอลุงหล่อนกำลังกินโอวัลตินซึ่งเหมือนจะแข็งเป็นก้อนเลยสงสัยจะมัดถุงเก็บไม่แน่นอากาศเลยเข้าไปทำให้จับกันเป็นก้อน น้ำต้มก็หายเย็นเลยถือโอกาสต้มน้ำให้แก  ลุงหล่อนถามว่าวันนี้จะสักเพิ่มอะไรหรือเปล่า ผมก็บอกว่าขอสักยันต์เก้ายอดครับเพราะได้รับคำแนะนำว่ามีประสบการณ์ดีด้านคุ้มครองป้องกันภัย  ประมาณสัก 07.45 น.ก็เริ่มสักยันต์เก้ายอดยันต์นี้อักขระเยอะมากครับมากกว่าเมื่อวานนี้ด้วย ก็ทำใจสักพักเริ่มสักก็เจ็บมากทำใจไม่ทันก็ต้องใช้บทภาวนาอีกกว่าจะเข้าที่เล่นเสีย 2-3 นาที สักได้ประมาณ 7 นาที ก็มีแขกมาสักยันต์ด้วย 1 คน มาจากพิษณุโลก ยังหนุ่มประมาณ 29-30 ปี ไม่แน่ใจว่าแก่หรือหนุ่ม สักไปประมาณ 9 นาที ก็เสร็จเหมือนเดิมครับอาบน้ำมนต์แต่ตอนเช้าอากาศมันเย็นมากเล่นเอาผมตัวสั่นสะท้านเลย และก็ปลุกเสกยันต์เช่นเดิม ถึงคิวคนพิษณุโลกสักคุยกันว่าวันนี้เขาจะกลับพิษณุโลกเลยหลังสักยันต์เสร็จแล้ว โชคดีตอนกลับอีกแล้วเรา สุดยอดเลยครับเหมือนหลวงพ่อท่านดลบันดาลให้กลับได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ตอนขากลับก็ขอคนพิษณุโลกแวะกราบลาหลวงพ่อกวยที่วัดอีกรอบหนึ่งนึกในใจอยากจองล็อตเกตเพิ่มด้วยก็เลยได้จองมาอีก 1 องค์ เลือกเบอร์ 6 เพราะเลขเดี่ยวเหลือตัวเดียวเท่านั้น หลวงพี่บอกว่ามีคนมาจองเยอะคิดว่าไม่เกินอาทิตย์นี้จะหมดแน่ แล้วก็จริงอย่างว่าทราบว่าช่วงบ่าย 3 โมงหมดแล้วครับ เลยโชคดีทั้งเดินทางและได้บูชาหลวงพ่อ สักยันต์ กลับบ้านสบายอีกสุดยอดประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตของผมเองจริง ๆ ครับคุ้มมาก ๆ และวันที่ 11 เมษายน 2551 นี้ คงจะไปเตรียมตัวร่วมงานผ้าป่าประจำปี 2551 แน่นอนเลยครับเอาไว้เจอกันที่งานทำบุญทำกุศลร่วมกันทุกท่านนะครับ โชคดีครับจบแล้วครับกระผม

บอกตรง ๆ ว่าผมอยากสักแต่ยังไม่มีเวลา เลยชอบกระทู้นี้เป็นพิเศษ ผลเป็นอย่างไร กลับมาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ แหะ ๆ ;)

 :D โชคดีจริงๆ ครับคุณ jontak

ใจถึงมากครับ
ไปถึงก็สักเลย.. ;D
กลับบ้าน นอนเป็นไข้เลยหรือเปล่าครับ ;D

ขอบคุณมากครับ ชอบอ่านเหมือนกัน  ;D

ขอบคุณท่านพี่ mungon ที่เป็นห่วงสบายมากครับไม่ป่วยไม่ไข้ศิษย์หลวงพ่อซะอย่าง ส.บ.ม.ย.ห.  กะว่าไปอีกจะสักอีกซัก 2 ยันต์ เพราะลุงหล่อนแกอายุมากแล้วที่สำคัญไม่มีคนสืบทอดวิชาสักยันต์ด้วยนะครับเรียกว่า หมดแล้วหมดเลยเดี๋ยวอดของดีที่หลวงพ่อกวยท่านถ่ายทอดไว้ต้องสู้ ๆ ครับท่านพี่ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมอย่าลืมร่วมบุญงานหลวงพ่อด้วยกันนะครับ วันที่ 12 เมษายน 2551 ที่วัดโฆษิตารามเน้อครับ

ดีใจด้วยครับ  ;D  ( แอบอิจฉาเล็ก ๆ )   >:(

ชอบอ่านครับ ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลดีๆเช่นนี้ครับ

อ่านแล้วจิตใต้สำนึกบอก..อยากสักมั่งจังครับ..(ขี้อิจฉา..อิ..อิ)
ว่าแต่..ช่วงที่กำลังสักยันต์ต้องท่องคาถาอะไรเพิ่มเติม
นอกจาก พุทธโธ..บ้างครับ??

ขณะสักไม่ต้องท่องอะไรก็ได้ครับพี่ แต่ที่ท่องเพราะใจผมฟุ้งซ่านเจ็บครับเลยต้องใช้ภาวนาให้จิตสงบเพื่อจะได้ไม่เจ็บมาก ในใจก็คิดถึงหลวงพ่อกวยขอให้ท่านมาประสิทธิประสาทวิชาสักยันต์ให้เข้มขลังครับ เรียกว่านึกถึงครูบาอาจารย์แล้วความเจ็บจะค่อย ๆ คลายตัวไปบางส่วนเป็นมงคลแก่ตัวเราด้วยอันนี้เป็นเคล็ดไม่ลับของผมเองครับลองพิสูจน์ดู

ดีครับ รักหลวงพ่อจริง ระยะทางมิใช่ปัญหา ยินดีที่ได้รูจักครับ

ดีมากเลยครับผมเป็นคนสิงห์บุรียังไม่ได้อะไรเลย

อยากสักครับ แต่ห่วงเรื่องความสะอาดครับ
 โดยเฉพาะน้ำมันว่านไม่ทราบว่าใช้รวมกันรึเปล่า
ครั้นจะเอาหมึกมันก็จะเก็บยันต์ได้ไม่เยอะ ฮ่าเรื่องมากจริงๆเลย
ขอบคุณพี่จอนครับ

ผมเองก็อยากสักครับ แต่ก็กลัวเรื่องความสะอาด คุณjontakเล่ารายละเอียดให้ฟังบ้างซิครับ สักน้ำมันพอหายแล้วจะมีรอยหมึกไหมครับ  ผมจะไปบ้างครับ ใช่เข็มแบบโบราณหรือแบบไฟฟ้าครับ ผมชอบกระทู้ของคุณมากเลย

ยินดีด้วยครับคุณ jontak วันหลังถ้าจะไปอีกบอกได้ครับผมก็อยู่สุโขทัยนี่เองเผื่อไปทางเดียวกัน ผมก็เคยไปสักกับลุงแกครับ ยินดีที่รู้จักครับศิษย์หลวงพ่อเดียวกัน
http://www.watkositaram.com/forum/index.php?topic=201.0

เรื่องเดินทางไปวัดบ้านแค อธิฐานเถอะครับ หลวงพ่อจะชี้ทางให้ชัดเจนเลยครับ^^