ประสพการณ์ที่ได้เกิดขึ้นกับผมนี้ ผมขอรับรองและยีนยันว่าเป็นเรื่องจริง
เรื่องมีอยู่ว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อประมาณ 10 กว่าปี่แล้ว ผมได้มีธุระที่จะต้องเดินทางไปทำที่กรุงเทพ โดยการเดินทางในครั้งนี้ ผมเดินทางโดยรถประจำทางสายชลบุรี - กรุงเทพ ก่อนการออกเดินทางออกจากบ้านผมก็ได้ทำการอาราธนาพระเครื่องติดตัว ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ทำเป็นประจำ แต่ในครั้งนี้ผมได้อธิฐานเพิ่มคือได้ขอบารมีของหลวงพ่อกวย ว่าขอให้ในการไปติดต่อธุระในครั้งนี้สำเร็จลุล่างไปได้โดยง่าย ซึ่งธุระที่ผมไปติดต่อนี้เป็นการยากพอสมควรที่เขาจะยินยอมโดยง่าย ซึ่งในการขอบารมีในครั้งนี้พระที่ผมติดตัวไปและขอบารมีนี้คือ รูบถ่ายหลังจีวรหลวงพ่อกวย
แขวนเดี่ยวนะครับ ! ( องค์ที่อยู่ในกระดานโชว์พระและสนทนา ) ซึ่งพระของหลวงองค์นี้เป็นพระองค์แรกและองค์เดียวที่ผมได้มีในตอนนั้น
กลับมาที่เรื่องการติดต่อธุระของผม เมื่อผมได้ไปถึงสถานที่ที่จะติดต่อธุระและได้พบกับผู้ที่ผมจะมาคุยธุระด้วย
สิ่งที่ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นกับผม
![ตกใจ](http://www.watkositaram.com/forum/Smileys/default/shocked.gif)
อะไรกันครับ จากการที่ผมคุยกับเขาประมาณ 10 กว่านาที่ อยู่ดี ๆ เขาตอบตกลงผมหน้าตาเฉย เอา งง งง งง ผมซิครับ ที่เป็นคนงง เพราะก่อนหน้านี้หลายครั้งเขาจะปฎิเสธตลอด (ผู้ที่ผมไปติดต่อเป็นนายแพทย์ครับ) เราเคยคุยข้อมูลกันบ้างแล้วครับ ผมซิครับ ขนลุกซู่ นึกถึงหลวงพ่อทันที
ตอนนี้เพิ่งเริ่มเรื่อง ต่อไปนี้เป็นประสพการณ์ตามหัวข้อ
เมื่อทำธุระเสร็จก็รีบเดินทางกลับบ้านโดยทางรถโดยสารประจำทางสาย กรุงเทพ - ชลบุรี เหมือนเดินด้วยความดีใจ โดยได้ไปขึ้นรถที่สี่แยกบางนา ในใจผมก็ยังคิดอยู่เกี่ยวกับเรื่องที่เพิ่งได้เกิดกับตัวผม จู่ ๆ ก็ได้เกิดความมคิด
แว๊บเข้ามาในความคิดของผม คือเมื่อรถโดยสารจอดรับคน ซึ่งขณะนั้นมีคนขึ้นรถพร้อมผมประมาณ 2-3 คน
ซึ่งเมือผมขึ้นรถผมก็ได้ทำการในสิ่งที่ผมคิดแว๊บเมื่อกี้ทันที่ คือผมได้ทำการอธิฐานในใจ (ต่อรูปหลวงพ่อที่แขวนอยู่) ถ้าผมมีวาสนาพอที่หลวงจะยอมรับผมเป็นลูกศิษย์ด้วยอีกซักคน ขอให้หลวงพ่อช่วยเมตตาแสดงปาฎิหาร
ให้ผมได้รับรู้ โดยที่เมื่อผมขึ้นรถโดยสารคันนี้ขอให้กระเป๋ารถไม่เก็บเงินค่าโดยสารผม(ไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่จ่ายเงินเขานะครับ )
![ยิงฟันยิ้ม](http://www.watkositaram.com/forum/Smileys/default/grin.gif)
เมื่อผมขึ้นรถเสร็จผมก็ได้ที่นั่งแถว ๆ กลางด้านติดหน้าต่างและได้มีผู้โดยสานที่ขึ้นพร้อมผมอีก 1
คนมานั่งข้าง (รถไม่แน่นคนน้อยนั้งสบาย) เสร็จแล้วรถก็เริ่มออก สักพักกระเป๋ารถก็เริ่มเก็บเงินค่าโดยสายซึ่งมี
ผู้โดยสานขึ้นเพีย 3 คน และเขาเริ่มเดินมาหยุดตรงที่ผมนั้งกับผู้โดยสารอีกคนและก็เรียกเก็บเงินกับผู้โดยสารที่นั่งข้างผม ซึ่งผมก็ได้เตรียมเงินไว้ในมือเพื่อที่จะจ่ายให้เขา เมื่อเขาเก็บคนข้าง ๆ ผมเสร็จ อะไรกันครับ เขาไม่สนใจผมเลย ทั้ง ๆ ที่เขาก็หันหน้ามาที่ผม ห่างกันไม่เกิน 3 ฟุต เขาเดินเลยออกไปเลย ทั้ง ๆ ที่เขาก็เห็นว่าผมเพิ่งขึ้นมาพร้อมคนข้าง ๆ ถ้าเขาจะลืมไม่น่าเป็นไปได้ (ขึ้นเป็นสิบยังไม่หลงเลย) เท่านั้นยังไม่พอเขายังเดินผ่านเก้าอี้ที่ผม
นั้งไปมาอีกหลายรอบเหมือนเขาหาผมหรือเปล่า (เขาน่าจะเห็นตอนขึ้น ) แต่เขาไม่ได้หันมามองหรือสนใจผมเลย
ตอนนั้นผมงงไปหมด และก็เกิดอาการขนลุกซู่ แล้วก็แอบยกมือท่วมห้ว และที่แน่ ๆ ในใจผมพองโตและดีใจจนน้ำตาซึม หลวงพ่อรับเป็นลูกศิษย์แล้ว แล้วผมก็ได้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ.
พี่ ๆ คิดอย่างไรบ้างครับสำหรับเรื่องนี้ ส่วนตัวผมคิดอย่างเดียวว่าเป็นบารมีและความเมตตาของหลวงพ่อที่มีต่อตัวผมอย่างแท้จริง (ยังไงก็ไม่ใช้บังเอิญอย่างแน่นอน) สวัสดีครับ
![ยิงฟันยิ้ม](http://www.watkositaram.com/forum/Smileys/default/grin.gif)
ปล เรื่องนี้ได้เคยลงตีพิมพ์ลงในหนังสือนะโมเล่มเก่า ๆ คอลัม หลวงพ่อกวย ซึ่งคุณเฒ่า สุพรรณ ได้เมตตาผมนำลงตีพิมพ์ให้ เพื่อเป็นการเผยแผ่พระเกียรติคุณ ของหลวงพ่อของพวกเราทุก ๆ คน หลวงพ่อกวย แห่งวัดโฆสิตาราม ผู้มีความเมตตากับลูกศิษย์ของท่านคน
somchai