ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน 29 มีนาคม 2024, 02:28:05 PM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: การบริจาคเงินเข้าวัดโฆสิตาราม (สำคัญโปรดอ่าน) http://www.watkositaram.com/forum/index.php?topic=204.0

+  กระดานสนทนา วัดโฆสิตาราม (บ้านแค) จ.ชัยนาท
|-+  ทั่วไทย
| |-+  พระเกจิอาจารย์จังหวัดชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี สุพรรณบุรี
| | |-+  วัตถุมงคลเเละอภินิหารพระครูพิมพ์
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: วัตถุมงคลเเละอภินิหารพระครูพิมพ์  (อ่าน 12772 ครั้ง)
tongn005
Administrator
Hero Member
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,222


singhakhakha@hotmail.com


« เมื่อ: 23 มกราคม 2010, 05:13:13 PM »

วัตถุมงคลที่ท่านสร้างเอาไว้  มีดังนี้
   1. เหรียญรุ่นแรก  เป็นเหรียญกลมเข้าใจว่าเป็นพระประจำวันเกิดของท่าน  เป็นรูปพระพุทธรูปยืน  ปางรำพึง  ข้างบนเขียนว่า  “พระครูสรรค”  ด้านล่างเขียนว่า  “ภาระวิชิต”  ตรงกลางเขียนว่า  “พ.ศ. ๒๕๑๐ “ เนื้ออัลปาก้าด้านหลังเป็นยันต์ดอกบัว  แบบเหรียญหลวงปู่ใจวัดเสด็จ
   เหรียนรุ่นนี้ท่านปลุกเสกนานมาก  บางเหรียญนานถึง 10 กว่าปี  หลังจากนั้นท่านก็สร้างเหรียญรูปท่าน  ด้านหลังเป็นพระปางรำพึงมีหูยาวขึ้นไป  เนื้ออัลปาก้า  รูปแบบไม่สวยนักตอนที่สร้างเมรุวัดวิหารทอง  ทางกรรมการวัดได้ร้างเหรียญรูปหลวงพ่อโต  เป็นเหรียญรูปไขท่านก็ปลุกเสกให้  และยังเคยสร้างเหรียญรูปแบบหยดน้ำ  (แบบเหรียญหันหลังชนกับขุนสวรรค์)  แต่อีกด้านหนึ่งเป็นรูปพระพุทธ  และยังได้สร้างรูปหล่อ  5  นิ้ว  ขนาดบูชาไว้  1  รุ่น

   2. เหรียญหันหลังชนกับขุนสรรค์  ในงานสร้างอนุสาวรีย์ขุนสรรค์  นักรบผู้กล้าจากแม่น้ำน้อยสู่บางระจัน  แม้กาลเวลาจะล่วงเลยมานาน  แต่คนเมืองสรรค์ก็ไม่เคยลืมขุนสรรค์วีรบุรุษผู้กล้าแห่งแม่น้ำน้อยไปได้  พอดีท่านนายอำเภอสรรคบุรี  พ.ศ. 2525  มีดำรีสร้างอนุสาวรีย์ขุนสรรค์ขึ้น  ได้เรียกประชุมชาวบ้าน  พ่อค้าประชาชน  ข้าราชการทุกหมู่เหล่าต่างดีใจช่วยกัน  โดยครั้งแรกได้สร้างเหรียญขึ้นเพื่อเป็นทุนสร้างรูปหล่อใหญ่  และได้สร้างรูปหล่อขนาดปูชา  สูงประมาณ  15  นิ้ว  ได้สร้างเหรียญขึ้นเป็นจำนวน  3  หมื่น  เหรียญรูปแบบด้านหนึ่งเป็นรูปขุนสรรค์ถือปืน  เขียนว่า  “ขุนสรรค์  วีรบุรุษแห่งลุ่มน้ำน้อย”  อีกด้านหนึ่งแกะเป็นรูปพระครูพิมพ์  เขียนว่า  “สมโภชกรุง 200 ปี  ๒๕๒๕  วัดวิหารทอง  สรรคบุรี”  เป็นเหรียญทองแดงรมน้ำตาล  ได้ทำการปลุกแสกในพระอุโบสถ  วัดวิหารทอง  เวลา  21.00 – 24.00  น.  เป็นเวลา 3  ชั่วโมง  เหรียนรุ่นนี้แรงเหลือเกิน”  ซึ่งก่อนหน้านี้ท่านนายอำเภออุทัยได้เรียนถามท่านว่า  จะนิมนต์หลวงพ่อองค์ใดมาปลุกเสกด้วย  ท่านได้พูดตอบไปว่า  ไม่ต้องใครเขาเอาไปใช้แล้วเกิดตายไป  เขาจะได้โทษข้าคนเดียว  (เหรียญรุ่นแรกนี้เคยพบเนื้อเงิน)  ปัจจุบันเริ่มหายาก  เคยพบตามวัดที่มีเกจิอาจารย์  เช่น  วัดหนองปลาดุก  วัดโคกดอกไม้  ฯลฯ  แต่รู้สึกว่าจะจำหน่ายแพง 
ประสบการณ์ดี  แม้ทางกันอาวุธก็ดี  ถ้าแขวนยู่กับรถ  โดยมากเวลามีอุบัติเหตุจะชนรถเขารถจะตกเหว  มักจะพบขุนสรรค์เอามือผลักรถเอาไว้คนเมืองสรรค์จึงนิยมนำมาแขวนติดรถ
   หลังจากที่เหรียญรุ่นแรกได้หมดไปแล้วงานสร้างอนุสาวรีย์เสร็จไปแล้ว  ในปี  2530  ท่านอายอำเภออุทัย  ได้ขออนุญาตหลวงปู่พิมพ์สร้างเหรียญขุนสรรค์ขึ้น  โดยได้แกะรูปขุนสรรค์ไม่ถือปืน  เพื่อให้แปลกออกไป  มีเหรียญเล็กด้วยเหรียญเล็กเคยชนิดรมทอง
   อยู่ต่อมา  ทางวัดหนองตาแก้ว  ยากจะสร้างพระอุโบสถ  หลวงพ่อพิมพ์จึงได้ส่งอาจารย์สมาน  ไปสร้างและได้สร้างเหรียญแบบรุ่นแรกแต่เขียนว่า  “สร้างพระอุโบสถวัดหนองตาแก้ว”  แต่อาจารย์สมานไปอยู่วัดหนองตาแก้วความไม่พร้อมมีมาก  ไม่สามารถสร้างได้ง่ายท่านจึงกลับมาอยู่วัดหัวเด่น  ส่วนเหรียญได้ทิ้งไว้ในวัดหนองตาแก้ว  ทางท่านอาจารย์ใหญ่  ร.ร. วัดหนองตาแก้ว  และ ส.จ. ชิต  เมืองช้าง  ได้นำมาแจกให้กับผู้ร่วมทำบุญหมดไปนานแล้ว
   3. เครื่องรางและพระพิมพ์  ในบั้นปลายชีวิตของท่าน  ท่านได้มาอยู่วัดสนามชัยและจาริกไปอินเดียเพื่อแสวงบุญ  เมื่อกลับมาท่านได้นำดินจากประเทศอินเดียมาผสมทำพระรูปท่านแบบหลวงปู่ทวด  พิมพ์เตารีดและทำเนื้อผงผสมว่านขมิ้นอ้อย  (นิยมมาก) ทำเนื้อผงผสมว่านรูปพระรอด  ทำตะกรุตในพรรษา  ออกพรรษาจึงแจกออกไป  ยันต์ที่ใช้  คือ  ยันต์กันภัย  8  ทิศ  ตำราเดียวกับหลวงพ่อโต  หลวงพ่อกวย  ทำพระบูชาแบบอินเดีย  คือ  เป็นรูปพระพุทธเจ้า  นั่งอยู่ในใบโพธิ์  รูปแบบคล้ายของท่านพ่อลี  วัดอโศการาม  แต่ของท่านเป็นพระบูชา  องค์ใหญ่โตกว่าฝ่ามือเล็กน้อย  โดยท่านนำปัจจัยที่คนทำบุญนำมาสร้างกุฏิกรรมฐาน  นอกจากนี้ก็ยังสร้างรูปหล่อขนาดคล้องคอ  (ฉีด)  เพื่อตั้งกองทุนมูลนิธิและมีรูปบูชาสั่งทำออกมาบ้างแต่น้อย  เป็นรูปที่ท่านทำบัตรไปอินเดีย  นำไปพิมพ์ขยายใหญ่รูปนี้มีไม่มากนัก
   นอกจากนี้ท่านมีพระเนื้อดินสรรค์นั่ง , สรรค์ยืน. ลีลาหย่อง  ซึ่งท่านได้เอามาจากวัดวิหารทอง  โดยตอนนั้นท่านได้รื้อเจดีย์คนตายออก  เพื่อใช้พื้นที่ตรงนั้นก่อสร้างเมรุ  ท่านได้แจกพระสรรค์นั่งและพระสรรค์ยืน  ลีล่าหย่อง  ให้กับคนที่นำมาผ้าป่ามาทอดรวมทั้งการทำสะพานแขวนข้ามแม่น้ำน้อยท่านก็นำพระพิมพ์สรรค์นี้แจกให้กับผู้นาผ้าป่ามาทอด  แม้เมื่อท่านมาอยู่วัดสนามชัย  ท่านก็ยังนำมาแจกให้กับผู้ทำบุญผ้าป่า แทบทุกคนที่ได้พระไป  ต่างคนก็คิดว่าเป็นพระของท่าน  เพราะสาเหตุที่ท่านมีพิมพ์สรรค์ของหลวงพ่อโตแจกนี่เอง  ท่านจึงไม่ค่อยได้สร้างวัตถุมงคลอะไรไว้มากนัก

   อภินิหารในวัตถุมงคล
   เรื่องแรก  ลูกชายพระโชน  อยู่วัดวังขรณ์เคยเป็นศิษย์ของหลวงปู่  คือเป็นญาติกันด้วยเรียน ร.ร. คุรุประชาสรรค์  จึงได้มาพักอยู่กับหลวงปู่เมื่อจบไปได้เข้าไปเรียน  ร.ร. ตำรวจ  ปัจจุบันคงเป็นจ่าหรือนายดาบ  ชื่อเล่นชื่อ  ดุ่ย  อยู่  สภ.อ. ทางจังหวัดสระบุรี  รู้สึกว่าจะเป็น  สภ.อ. แก่งคอย  จ่าดุ่ยนี้ก็เป็นตำรวจที่ใจจริง  มือถึงเพราะมีเชื้อสายพระโชน  อดีตเคยอยู่กับท่าน  จอมพลผิน  ชุณหะวัน  จ่าดุ่ยนี้เคยโดนยิงขณะที่มีเหรียญรุ่นแรกของท่านนี้หลายครั้ง  แต่ยิงไม่ออกเลย
   เรื่องที่ 2  นายเกิด  -  นางชวน  โนรี  สองสามี-ภรรยา  บ้านอยู่ข้างวัดสนามชัย  รู้สึกว่าตัวเองดวงไม่ดี  จึงได้เดินทางไปกราบหลวงพ่อพิมพ์  ที่วัดวิหารทอง  ได้ปรึกษาหารือจนสบายใจแล้วจึงชวนกันกลับ  ก่อยกลับหลวงปู่พิมพ์ได้หยิบเหรียญหันหลังชนกับขุนสรรค์ให้คนละเหรียญ  แล้วให้พรให้แคล้วคลาดปลอดภัยนายเกิดและนางชวนได้ซ้อนมอเตอร์ไซค์กันมาพอมาถึงกลางทางก็มาเจอกับคนร้าย  2  คน  ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นยานพาหนะ  ดักรออยู่พอดีคนร้ายได้ยิงนายเกิดและนางชวน  จนลูกหมดโม่แต่ทั้ง 2  กระบอก  ผลปรากฏว่ายิงไม่ออกเลยแม่แต่นัดเดียว  นายเกิดได้สติจึงหันมอเตอร์ไซค์กลับขี่มอเตอร์ไซค์มาเล่าเรื่องให้พระครูพิมพ์ทราบเล่าแล้วเล่าอีกไม่ยอมกลับ  จนกระทั้งพระครูพิมพ์ท่านคงจะกลัวมืดท่านจึงไล่ให้กลับ  โดยบอกว่ามันไปไหนแล้วป่านนี้  มึงกลับไปเถอะมันไม่มาดักยิงมึงอีกหรอก  นายเกิดและนางชวนจึงได้ลากลับ

   เรื่องที่  3  นายประชา  มั่นปาน  เป็นคนอำเภอสรรค์บุรีโดยกำเนิด  มีอาชีพขับรถชื้อของจากเหนือสู่กลาง  ได้ยินเขาพูดกันถึงเหรียญขุนสรรค์ – พระครูพิมพ์  ใช้ติดรถดี เขา  ได้หาบูชาติดรถและติดตัวไว้  ยามค่ำคืนก็สวดมนต์บอกเล่าต่อขุนสรรค์ – พระครูพิมพ์  ยามขับรถก็ระลึกถึงขุนสรรค์ – พระครูพิมพ์   วันหนึ่งเขาหลับไป  เขาฝันไปว่าเขาได้พบกับผู้ชายร่างกายใหญ่โต  ไม่สวมเสื้อ  ผิวดำแดง  ในมือถือปืนที่คอคาดเชือกคาดว่ามีตระกรุดอยู่  นุ่งผ้าหยักรั้งรัดกุม  ตัดผมแบบคนโบราณ  ตอนนั้นคุณประชานอนเอนเบาะอยู่ในรถได้เห็นผู้ชายคนนี้  ครั้งแรกเขาตกใจมาก  คิดว่าเป็นยมบาล  ขณะยืนยังสูงกว่ารถกระบะ  ชายผู้มาเยือนได้พูดว่า  กูชื่อขุนสรรค์  กูมาเตือนมึง  มึงระวังให้ดี  วันพรุ่งนี้รถมึงจะเบรกแตก  กูเห็นว่ามึงนับถือกู  กูจึงมาเตือน  แล้วคุณประชาก็ตื่น  ยังงัวเงียจำได้มั่งไม่ได้มั่ง  พอวันรุ่งขึ้นเขาก็ขับรถไปเหนือไปซื้อกระเทียมมาขาย  พอถึงทางลงมอรถของเขาวิ่งมาด้วยความเร็ว  เกิดเบรกแตก  เบรกไม่อยู่ แม้กระทั้งคุณประชาจะเชนเกียร์ช่วยก็ไม่ทำให้รถชะลอความเร็วลงไปได้  เขาระลึกถึงท่านขุนสรรค์ – พระครูพิมพ์ให้ช่วย  ทางลงมอที่แพร่ก็คดไปโค้งมา  แต่รถก็ยังวิงด้วยความเร็วและแล้วเหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น   รถของเชนเสาหลักกันรถตกเหวหักกระเด็นไป  4-5 เสา  เขาเห็นขุนสรรค์ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไปชัดเจน  แล้วขุนสรรค์ก็เดินจากไปเฉยๆ  เมื่อเขาสำรวจดูรถ  ปรากฏว่าไม่เป็นไรเลย  เสียแต่กันชน  แต่เมือมาดูข้างเสาหลัก  ปรากฏว่าเป็นเหวชนิดที่เรียกว่าถ้าตกลงใบทั้งรถทั้งคน  แทบจะหาซากไม่ได้เลยเรื่องเหรียญรุ่นขุนสรรค์ – พระครูพิมพ์นี้เดิมราคาไม่แพง  ผมได้เช่าไว้จากคนที่ช่วยหาผ้าป่ามาให้  เดี๋ยวนี้แทบจะหาไม่ได้เลย  แม้แต่พระพิมพ์สรรค์ของหลวงพ่อโต  ก็แทบจะหาไม่ได้เลย

   เรื่องที่  4  นายชา เพชรดี   เป็นคนสรรคบุรี  เขามีความเชื่อว่า  พระเมืองสรรค์ถ้าเก่งจริง  จึงจะสร้างตะกรุด  พอเขารู้ว่าหลวงพ่อพระครูพิมพ์  สร้างตะกรุด  เขาจึงรีบมาบูชาเอาไว้  วันหนึ่งเขาขับรถไปชนกับ  1  ล้อ  ตัวเองถูกอัดก๊อปปี้ต้องแงะออกมา  กระจกได้บาดแต่ผิวหนังนอกๆ  เท่านั้น  เขานอนพักเอกซเรย์  1  คืน  ก็กลับบ้านได้  เขามั่นใจในตะกรุดมากวันหนึ่งเขาโดนจี้ที่กรุงเทพฯ  คนร้าย 2 คน  คนหนึ่งมีปืนไทยประดิษฐ์  อีกคนมีมีด  เขาเกิดฮึดสู้ขึ้นมา  เอามือตบตะกรุด  ผลคือ  ปืนไทยประดิษฐ์ยิงไม่ออก  - โดนมีดแทงด้านหลัง  2  ที 
แต่ไม่เข้า  เขาเลยชกต่อยต่อสู้  ผลคือ  คนร้ายใจฝ่อหนีไปทั้ง  2  คน

 ตะกรุดของท่าน สมัยก่อนท่านตั้งราคาไว้ดอกละ  500  บาท  บางคนอาจไม่ชอบพระที่ทำวัตถุมงคลแล้วตั้งราคา  ภายหลังตะกรุดของท่านดอกละ  500  มีสนนราคา  5,000  บาท  และหายากมากด้วย

ประมาณปี  40-42 ท่านอาจารย์สมานก่อสร้างเมรุเผาศพ  และสร้างมณฑปที่วัดหัวเด่น  ท่านอาจารย์สมานก็นำวัตถุมงคล  เครื่องรางของขลังของหลวงปู่พระครูพิมพ์  มาให้กับผู้มาทำบุญผ้าป่า  มีผ้าขุดที่ท่านครองอยู่แล้วไม่ไหม้ไฟ  มีฟันเขี้ยวแก้ว  พระรอด,  พระพิมพ์รูปท่าน  เหรียญหันหลังชนกันกับขุนพรรค์,  คันกระสุนคู่  ชีวิต,  รูปบูชา,  กะโหลกศีรษะ  เกือบศีรษะผ้าอังสะแบผ้าขนหนู  คือท่านนิยมใส่อย่างนี้ตัวท่านสักน้ำมัน  เวลาฤดูหนาวจะหนาวมากท่านเสกให้ไว้กันกระทำ 

บันทึกการเข้า

อะปะจะคะ ปะจะคะอะ จะคะอะปะ คะอะปะจะ
tongn005
Administrator
Hero Member
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,222


singhakhakha@hotmail.com


« ตอบ #1 เมื่อ: 23 มกราคม 2010, 05:19:10 PM »

เหรียญรุ่นเเรก ศิษย์ใกล้ชิด ยืนยันว่า ท่านได้นำไปให้หลวงปู่กวยช่วยเสกด้วย นับว่าเป็นเหรียญดีมากๆ ที่น่าบูชาเป็นอย่างยิ่ง ยิ้ม


* P0138598-PIC2.jpg (100.52 KB, 662x962 - ดู 4912 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

อะปะจะคะ ปะจะคะอะ จะคะอะปะ คะอะปะจะ
โอ๋ ชัยนาท
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,984


นะสิวัง พรหมมา มะอะอุ


« ตอบ #2 เมื่อ: 23 มกราคม 2010, 05:42:16 PM »

หลวงพ่อพิมพ์เก่งมาก ๆ ครับ ยังนึกถึงงานขุนสรรค์เมื่อ 2525 เลย สุดยอด  ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
tongn005
Administrator
Hero Member
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,222


singhakhakha@hotmail.com


« ตอบ #3 เมื่อ: 23 มกราคม 2010, 05:57:55 PM »

ล็อกเก็ตรุ่นเเรก ยิ้ม


* ph1.jpg (81.47 KB, 600x439 - ดู 4679 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

อะปะจะคะ ปะจะคะอะ จะคะอะปะ คะอะปะจะ
kon chainat
Register Member
Jr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 62



« ตอบ #4 เมื่อ: 21 กันยายน 2011, 02:22:29 PM »

ใครยังพอมี ไหมคับเหรียญพ่อขุนสรรค์
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.10 | SMF © 2006-2008, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!