ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน 29 มีนาคม 2024, 04:20:29 AM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: รวมภาพวันงานกฐิน 9 พ.ย. 2551 http://www.watkositaram.com/forum/index.php?topic=7221.0

+  กระดานสนทนา วัดโฆสิตาราม (บ้านแค) จ.ชัยนาท
|-+  วัดโฆสิตาราม
| |-+  รวมตำราเเละคาถาต่างๆของหลวงปู่กวย
| | |-+  มนต์ขุนเเผน
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: มนต์ขุนเเผน  (อ่าน 39952 ครั้ง)
tongn005
Administrator
Hero Member
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,222


singhakhakha@hotmail.com


« เมื่อ: 31 ตุลาคม 2009, 05:22:32 PM »

 ยิ้ม


* 66.jpg (80.1 KB, 500x767 - ดู 52098 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

อะปะจะคะ ปะจะคะอะ จะคะอะปะ คะอะปะจะ
wutthik
Register Member
Full Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 225



« ตอบ #1 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2018, 04:34:44 AM »

พระคาถาขุนแผน
โอมสิทธิ ท้าวฟื้นเจริญศรีหน้ากูงามคือพระแมน นะมะพะทะ แขนกูงามคือพระนารายณ์ ฉายกูงามคือพระอาทิตย์ ฤทธิ์กูงามคือพระจันทร์ สาวในเมืองสวรรค์เห็นหน้ากูอยู่มิได้ กูมาระลึกถึงฝูงหงษ์ก็มาลืมถ้ำคูหา กูมาระลึกถึงมหาเสนาก็มาลืมแท่นที่นอน กูมาระลึกถึงลูกไก่อ่อน ก็วิ่งตามกูมา กูมาระลึกถึงสาวไซ้ก็มาลืมแม่ กูมาระลึกถึงสาวแก่ก็มาหลงไหล กูมาระลึกถึงเจ้าทัยเทวีก็มาลืมสวดมนต์ กูมาระลึกถึงฝูงคนก็มารักกูอยู่ทั่วหน้า ทั่วชั้นฟ้าและพื้นดิน เหมือนช้างรักงา เหมือนปลารักน้ำ เข้าอยู่ในดงผมก็ลืมเกล้า ข้าวอยู่ในคอก็ลืมกลืน ให้สะอื้นคิดถึงตัวกูอยู่ทุกเวลาและราตรี อิติลีกัณหาชูชะโก โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู เอหิกะระนีโย อิติปิโสพะคะวานะลีติ อิติมานิยม.

 หมายเหตุ..ฉายแปลว่ารูป เอหิกะระนิโย คำว่า " นิ " น่าจะเป็น " นี "  และคำว่าอิติภิโส น่าจะเป็น คำว่าอิติปิโส ซึ่งตรงกับบทสวดมนต์ในปัจจุบัน ทั้งนี้การฟังจากปากผู้บอก(อาจารย์ผู้ถ่ายทอดพระคาถาให้ในสมัยโบราณมักนิยมบอกจากปาก)แล้วให้ผู้เป็นศิษย์คอยท่องตามหรือจดตาม(หรือท่องตามแล้วมาจดในภายหลัง)อาจผิดเพี้ยนคำพยางค์และอักษรปัจจุบันบ้าง จุดประสงค์ของผมเพื่อถ่ายทอดคำภาษาของคนโบราณในสมัยนั้นให้อ่านง่ายในปัจจุบันและสืบทอดพระคาถาให้คนรุ่นหลังที่สนใจเล่าเรียนท่องจำได้ง่ายชึ้นไม่สูญหายไปกับกาลเวลา (ความเห็นของผู้เขียนเอง ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยนะครับ)
บันทึกการเข้า
wutthik
Register Member
Full Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 225



« ตอบ #2 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2018, 04:37:00 AM »

พระคาถาขุนแผน
โอมสิทธิ ท้าวฟื้นเจริญศรีหน้ากูงามคือพระแมน นะมะพะทะ แขนกูงามคือพระนารายณ์ ฉายกูงามคือพระอาทิตย์ ฤทธิ์กูงามคือพระจันทร์ สาวในเมืองสวรรค์เห็นหน้ากูอยู่มิได้ กูมาระลึกถึงฝูงหงษ์ก็มาลืมถ้ำคูหา กูมาระลึกถึงมหาเสนาก็มาลืมแท่นที่นอน กูมาระลึกถึงลูกไก่อ่อน ก็วิ่งตามกูมา กูมาระลึกถึงสาวไซ้ก็มาลืมแม่ กูมาระลึกถึงสาวแก่ก็มาหลงไหล กูมาระลึกถึงเจ้าทัยเทวีก็มาลืมสวดมนต์ กูมาระลึกถึงฝูงคนก็มารักกูอยู่ทั่วหน้า ทั่วชั้นฟ้าและพื้นดิน เหมือนช้างรักงา ปลารักน้ำ เข้าอยู่ในดงผมก็ลืมเกล้า ข้าวอยู่ในคอก็ลืมกลืน ให้สะอื้นคิดถึงตัวกูอยู่ทุกเวลาและราตรี อิติลีกัณหาชูชะโก โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู เอหิกะระนีโย อิติปิโสพะคะวานะลีติ อิติมานิยม.

 หมายเหตุ..ฉายแปลว่ารูป เอหิกะระนิโย คำว่า " นิ " น่าจะเป็น " นี "  และคำว่าอิติภิโส น่าจะเป็น คำว่าอิติปิโส ซึ่งตรงกับบทสวดมนต์ในปัจจุบัน ทั้งนี้การฟังจากปากผู้บอก(อาจารย์ผู้ถ่ายทอดพระคาถาให้ในสมัยโบราณมักนิยมบอกจากปาก)แล้วให้ผู้เป็นศิษย์คอยท่องตามหรือจดตาม(หรือท่องตามแล้วมาจดในภายหลัง)อาจผิดเพี้ยนคำพยางค์และอักษรปัจจุบันบ้าง จุดประสงค์ของผมเพื่อถ่ายทอดคำภาษาของคนโบราณในสมัยนั้นให้อ่านง่ายในปัจจุบันและสืบทอดพระคาถาให้คนรุ่นหลังที่สนใจเล่าเรียนท่องจำได้ง่ายชึ้นไม่สูญหายไปกับกาลเวลา (ความเห็นของผู้เขียนเอง ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยนะครับ)
บันทึกการเข้า
wutthik
Register Member
Full Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 225



« ตอบ #3 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2018, 04:41:21 AM »

พระคาถาขุนแผน
โอมสิทธิ ท้าวฟื้นเจริญศรีหน้ากูงามคือพระแมน นะมะพะทะ แขนกูงามคือพระนารายณ์ ฉายกูงามคือพระอาทิตย์ ฤทธิ์กูงามคือพระจันทร์ สาวในเมืองสวรรค์เห็นหน้ากูอยู่มิได้ กูมาระลึกถึงฝูงหงษ์ก็มาลืมถ้ำคูหา กูมาระลึกถึงมหาเสนาก็มาลืมแท่นที่นอน กูมาระลึกถึงลูกไก่อ่อน ก็วิ่งตามกูมา กูมาระลึกถึงสาวไซ้ก็มาลืมแม่ กูมาระลึกถึงสาวแก่ก็มาหลงไหล กูมาระลึกถึงเจ้าทัยเทวีก็มาลืมสวดมนต์ กูมาระลึกถึงฝูงคนก็มารักกูอยู่ทั่วหน้า ทั่วชั้นฟ้าและพื้นดิน เหมือนช้างรักงา เหมือนปลารักน้ำ เข้าอยู่ในดงผมก็ลืมเกล้า ข้าวอยู่ในคอก็ลืมกลืน ให้สะอื้นคิดถึงตัวกูอยู่ทุกเวลาและราตรี อิติลีกัณหาชูชะโก โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู เอหิกะระนีโย อิติปิโสพะคะวานะลีติ อิติมานิยม.

 หมายเหตุ..ฉายแปลว่ารูป เอหิกะระนิโย คำว่า " นิ " น่าจะเป็น " นี "  และคำว่าอิติภิโส น่าจะเป็น คำว่าอิติปิโส ซึ่งตรงกับบทสวดมนต์ในปัจจุบัน ทั้งนี้การฟังจากปากผู้บอก(อาจารย์ผู้ถ่ายทอดพระคาถาให้ในสมัยโบราณมักนิยมบอกจากปาก)แล้วให้ผู้เป็นศิษย์คอยท่องตามหรือจดตาม(หรือท่องตามแล้วมาจดในภายหลัง)อาจผิดเพี้ยนคำพยางค์และอักษรปัจจุบันบ้าง จุดประสงค์ของผมเพื่อถ่ายทอดคำภาษาของคนโบราณในสมัยนั้นให้อ่านง่ายในปัจจุบันและสืบทอดพระคาถาให้คนรุ่นหลังที่สนใจเล่าเรียนท่องจำได้ง่ายชึ้นไม่สูญหายไปกับกาลเวลา (ความเห็นของผู้เขียนเอง ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยนะครับ)
ตรงคำว่า เหมือนปลารักน้ำ คำที่ถูกต้อง ปลารักน้ำ เขียนเกินครับขออภัย
บันทึกการเข้า
wutthik
Register Member
Full Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 225



« ตอบ #4 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2018, 04:42:43 AM »

พระคาถาขุนแผน
โอมสิทธิ ท้าวฟื้นเจริญศรีหน้ากูงามคือพระแมน นะมะพะทะ แขนกูงามคือพระนารายณ์ ฉายกูงามคือพระอาทิตย์ ฤทธิ์กูงามคือพระจันทร์ สาวในเมืองสวรรค์เห็นหน้ากูอยู่มิได้ กูมาระลึกถึงฝูงหงษ์ก็มาลืมถ้ำคูหา กูมาระลึกถึงมหาเสนาก็มาลืมแท่นที่นอน กูมาระลึกถึงลูกไก่อ่อน ก็วิ่งตามกูมา กูมาระลึกถึงสาวไซ้ก็มาลืมแม่ กูมาระลึกถึงสาวแก่ก็มาหลงไหล กูมาระลึกถึงเจ้าทัยเทวีก็มาลืมสวดมนต์ กูมาระลึกถึงฝูงคนก็มารักกูอยู่ทั่วหน้า ทั่วชั้นฟ้าและพื้นดิน เหมือนช้างรักงาปลารักน้ำ เข้าอยู่ในดงผมก็ลืมเกล้า ข้าวอยู่ในคอก็ลืมกลืน ให้สะอื้นคิดถึงตัวกูอยู่ทุกเวลาและราตรี อิติลีกัณหาชูชะโก โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู เอหิกะระนีโย อิติปิโสพะคะวานะลีติ อิติมานิยม.

 หมายเหตุ..ฉายแปลว่ารูป เอหิกะระนิโย คำว่า " นิ " น่าจะเป็น " นี "  และคำว่าอิติภิโส น่าจะเป็น คำว่าอิติปิโส ซึ่งตรงกับบทสวดมนต์ในปัจจุบัน ทั้งนี้การฟังจากปากผู้บอก(อาจารย์ผู้ถ่ายทอดพระคาถาให้ในสมัยโบราณมักนิยมบอกจากปาก)แล้วให้ผู้เป็นศิษย์คอยท่องตามหรือจดตาม(หรือท่องตามแล้วมาจดในภายหลัง)อาจผิดเพี้ยนคำพยางค์และอักษรปัจจุบันบ้าง จุดประสงค์ของผมเพื่อถ่ายทอดคำภาษาของคนโบราณในสมัยนั้นให้อ่านง่ายในปัจจุบันและสืบทอดพระคาถาให้คนรุ่นหลังที่สนใจเล่าเรียนท่องจำได้ง่ายชึ้นไม่สูญหายไปกับกาลเวลา (ความเห็นของผู้เขียนเอง ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยนะครับ)
บันทึกการเข้า
wutthik
Register Member
Full Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 225



« ตอบ #5 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2018, 08:49:11 AM »

พระคาถาขุนแผน
โอมสิทธิ ท้าวฟื้นเจริญศรีหน้ากูงามคือพระแมน นะมะพะทะ แขนกูงามคือพระนารายณ์ ฉายกูงามคือพระอาทิตย์ ฤทธิ์กูงามคือพระจันทร์ สาวในเมืองสวรรค์เห็นหน้ากูอยู่มิได้ กูมาระลึกถึงฝูงหงษ์ก็มาลืมถ้ำคูหา กูมาระลึกถึงมหาเสนาก็มาลืมแท่นที่นอน กูมาระลึกถึงลูกไก่อ่อน ก็วิ่งตามกูมา กูมาระลึกถึงสาวไซ้ก็มาลืมแม่ กูมาระลึกถึงสาวแก่ก็มาหลงไหล กูมาระลึกถึงเจ้าทัยเทวีก็มาลืมสวดมนต์ กูมาระลึกถึงฝูงคนก็มารักกูอยู่ทั่วหน้า ทั่วชั้นฟ้าและพื้นดิน เหมือนช้างรักงาปลารักน้ำ เข้าอยู่ในดงผมก็ลืมเกล้า ข้าวอยู่ในคอก็ลืมกลืน ให้สะอื้นคิดถึงตัวกูอยู่ทุกเวลาและราตรี อิติลีกัณหาชูชะโก โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู เอหิกะระนีโย อิติปิโสพะคะวา นะชาลีติ อิติมานิยม.


หมายเหตุ...ข้อสังเกตุตรงคำว่า '' อิติปิโสพะคะวานะลีติ " คำนี้น่าจะจดตกไปจากคำเดิมว่า " นะชาลีติ " คือหัวใจพระฉิมพลีหรือพระสีวลี ผู้เป็นเลิศด้านโชคลาภ ถ้าลองท่องพระคาถาตามดูก็คล้องจองกันดีและสละสลวยได้ความดีด้วย (ความเห็นของผู้เขียนเอง ผิดก็ขออภัยครูบาอาจารย์และศิษย์ของหลวงพ่อด้วยนะครับ)
บันทึกการเข้า
wutthik
Register Member
Full Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 225



« ตอบ #6 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2018, 09:07:42 AM »

พระคาถาขุนแผน
โอมสิทธิ ท้าวฟื้นเจริญศรีหน้ากูงามคือพระแมน นะมะพะทะ แขนกูงามคือพระนารายณ์ ฉายกูงามคือพระอาทิตย์ ฤทธิ์กูงามคือพระจันทร์ สาวในเมืองสวรรค์เห็นหน้ากูอยู่มิได้ กูมาระลึกถึงฝูงหงษ์ก็มาลืมถ้ำคูหา กูมาระลึกถึงมหาเสนาก็มาลืมแท่นที่นอน กูมาระลึกถึงลูกไก่อ่อน ก็วิ่งตามกูมา กูมาระลึกถึงสาวไซ้ก็มาลืมแม่ กูมาระลึกถึงสาวแก่ก็มาหลงไหล กูมาระลึกถึงเจ้าทัยเทวีก็มาลืมสวดมนต์ กูมาระลึกถึงฝูงคนก็มารักกูอยู่ทั่วหน้า ทั่วชั้นฟ้าและพื้นดิน เหมือนช้างรักงาปลารักน้ำ เข้าอยู่ในดงผมก็ลืมเกล้า ข้าวอยู่ในคอก็ลืมกลืน ให้สะอื้นคิดถึงตัวกูอยู่ทุกเวลาและราตรี อิติลีกัณหาชูชะโก โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู เอหิกะระนีโย อิติปิโสพะคะวา นะชาลีติ อิติมานิยม.


หมายเหตุ...ข้อสังเกตุตรงคำว่า '' อิติปิโสพะคะวานะลีติ " คำนี้น่าจะจดตกไปจากคำเดิมว่า " นะชาลีติ " คือหัวใจพระฉิมพลีหรือพระสีวลี ผู้เป็นเลิศด้านโชคลาภ ถ้าลองท่องพระคาถาตามดูก็คล้องจองกันดีและสละสลวยได้ความดีด้วย (ความเห็นของผู้เขียนเอง ผิดก็ขออภัยครูบาอาจารย์และศิษย์ของหลวงพ่อด้วยนะครับ)
พลังจิตเกิดจากความเชื่อมั่นท่องให้ขึ้นใจและมีศรัทธาระลึกถึงครูอาจารย์เจ้าของวิชาบวกกับคำอธิฐานของเราให้เป็นไปตามประสงค์(คือมีเป้าหมายที่ต้องการ) เสกเป่าลงไปในแป้งผัดหน้าลูบตัว โดยใช้คาถาเป็นตัวนำให้พลังจิตของเราและครูอาจารย์ผสมรวมเป็นหนึ่ง ก็จะเกิดอิทธิฤทธิ์ได้ดังใจปรารถนาแล....
บันทึกการเข้า
wutthik
Register Member
Full Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 225



« ตอบ #7 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2018, 10:58:51 AM »

พระคาถาขุนแผน
โอมสิทธิ ท้าวฟื้นเจริญศรีหน้ากูงามคือพระแมน นะมะพะทะ แขนกูงามคือพระนารายณ์ ฉายกูงามคือพระอาทิตย์ ฤทธิ์กูงามคือพระจันทร์ สาวในเมืองสวรรค์เห็นหน้ากูอยู่มิได้ กูมาระลึกถึงฝูงหงษ์ก็มาลืมถ้ำคูหา กูมาระลึกถึงมหาเสนาก็มาลืมแท่นที่นอน กูมาระลึกถึงลูกไก่อ่อน ก็วิ่งตามกูมา กูมาระลึกถึงสาวไซ้ก็มาลืมแม่ กูมาระลึกถึงสาวแก่ก็มาหลงไหล กูมาระลึกถึงเจ้าทัยเทวีก็มาลืมสวดมนต์ กูมาระลึกถึงฝูงคนก็มารักกูอยู่ทั่วหน้า ทั่วชั้นฟ้าและพื้นดิน เหมือนช้างรักงาปลารักน้ำ เข้าอยู่ในดงผมก็ลืมเกล้า ข้าวอยู่ในคอก็ลืมกลืน ให้สะอื้นคิดถึงตัวกูอยู่ทุกเวลาและราตรี อิติลีกัณหาชูชะโก โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู เอหิกะระนีโย อิติปิโสพะคะวา นะชาลีติ อิติมานิยม.


หมายเหตุ...ข้อสังเกตุตรงคำว่า '' อิติปิโสพะคะวานะลีติ " คำนี้น่าจะจดตกไปจากคำเดิมว่า " นะชาลีติ " คือหัวใจพระฉิมพลีหรือพระสีวลี ผู้เป็นเลิศด้านโชคลาภ ถ้าลองท่องพระคาถาตามดูก็คล้องจองกันดีและสละสลวยได้ความดีด้วย (ความเห็นของผู้เขียนเอง ผิดก็ขออภัยครูบาอาจารย์และศิษย์ของหลวงพ่อด้วยนะครับ)
พลังจิตเกิดจากความเชื่อมั่นท่องให้ขึ้นใจและมีศรัทธาระลึกถึงครูอาจารย์เจ้าของวิชาบวกกับคำอธิฐานของเราให้เป็นไปตามประสงค์(คือมีเป้าหมายที่ต้องการ) เสกเป่าลงไปในแป้งผัดหน้าลูบตัว โดยใช้คาถาเป็นตัวนำให้พลังจิตของเราและครูอาจารย์ผสมรวมเป็นหนึ่ง ก็จะเกิดอิทธิฤทธิ์ได้ดังใจปรารถนาแล....

พระคาถาขุนแผน

         " โอมสิทธิ ท้าวฟื้นเจริญศรีหน้ากูงามคือพระแมน นะมะพะทะ แขนกูงามคือพระนารายณ์ ฉายกูงามคือพระอาทิตย์ ฤทธิ์กูงามคือพระจันทร์ สาวในเมืองสวรรค์เห็นหน้ากูอยู่มิได้ กูมาระลึกถึงฝูงหงษ์ก็มาลืมถ้ำคูหา กูมาระลึกถึงมหาเสนาก็มาลืมแท่นที่นอน กูมาระลึกถึงลูกไก่อ่อน ก็วิ่งตามกูมา กูมาระลึกถึงสาวไซ้ก็มาลืมแม่ กูมาระลึกถึงสาวแก่ก็มาหลงไหล กูมาระลึกถึงเจ้าทัยเทวีก็มาลืมสวดมนต์ กูมาระลึกถึงฝูงคนก็มารักกูอยู่ทั่วหน้า ทั่วชั้นฟ้าและพื้นดิน เหมือนช้างรักงาปลารักน้ำ เข้าอยู่ในดงผมก็ลืมเกล้า ข้าวอยู่ในคอก็ลืมกลืน ให้สะอื้นคิดถึงตัวกูอยู่ทุกเวลาและราตรี อิติลีกัณหาชูชะโก นะเมตตา โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู เอหิกะระนีโย อิติปิโสพะคะวา นะชาลีติ อิติมานิยม "


          ขอให้สังเกตุตรงประโยคต่อจากคำว่า....อิติลีกัณหาชูชะโก น่าจะต้องเป็น " นะเมตตา " แล้วจึงจะต่อคำว่า " โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู " จึงจะครบองค์พระคาถาหัวใจพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ คือ “นะ โม พุธ ธา ยะ” (คงอาจจะจดจำตกหล่นไปก็ได้) ซึ่งมีพุทธคุณหลากหลายครอบจักรวาล โบราณว่าฝอยท่วมหลังช้างก็ไม่หมด แต่คาถาบทนี้เน้นทางเมตตามหานิยมโดยเฉพาะคงขาดตกบกพร่องคำว่า " นะเมตตา " ไปไม่ได้เลย...
           หมายเหตุ...แก้ให้ถูกเพื่อประโยชน์ต่อคนรุ่นหลังที่ได้ศึกษาเล่าเรียนสืบต่อๆกันไปจะได้ไม่ลังเลสงสัย (วิจิกิจฉา) ในอนาคตเพราะถ้าอาจไปเจออาจารย์อื่นๆทักท้วงว่า บทพระคาถานี้ตกหล่นไปหรือไม่ครบ จะได้ไม่ต้องมาวิตกกังวลในจิตใจตนเอง จนทำให้พระคาถาดีๆของครูบาอาจารน์โบราณที่ตกทอดให้ไว้และมีความขลังยิ่งนัก ขาดความขลังและศรัทธาจากวิจิกิจฉาของคนรุ่นหลังๆโดยรู้เท่าไม่ถึงการได้ (ความเห็นของผู้เขียนเอง ไม่มีเจตตนาเป็นอย่างอื่นนอกจากเคารพครูอาจารย์เจ้าของพระคาถาเป็นยิ่งนัก ผิดก็ขออภัยครูบาอาจารย์เจ้าของวิชาและศิษย์ของหลวงพ่อกวยด้วยนะครับ)
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.10 | SMF © 2006-2008, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!