*** ภาพถ่ายวัดกำแพง อินทร์บุรี ***

[poskorn]

อิจฉาคนมีบ้านริมน้ำ เมื่อก่อนที่บ้านเคยมีที่ดินติดแม่น้ำลพบุรี ส๊วย สวย แต่ขายรับประทานไปแล้ว....

[tepbangbo]

เห็นพระเนื้อดินองค์ใหญ่ๆเท่าฝ่ามือ 2 องค์อยู่ในตู้ ถามพ่อว่าพระอะไร พ่อบอก พระหลวงปู่โต๊ะวัดกำแพง อินทร์บุรี  ตอนนั้นไม่ค่อยสนใจเรื่องพระเครื่องเท่าไหร่ ไม่รู้จัก เดี๋ยวออกพรรษากลับบ้านจะถ่ายมาให้ดูว่าใช่หรือเปล่า

[pichitpol]

  บ้านน่าอยู่มากครับพี่สังขวานรเป็นผมจะออกมานั่งเล่น ที่เฉลียงทุกวันเลย จิบกาแฟ ส่องพระ อ่านหนังสือ อู๊ย มีความสุข บรรยากาศแบบนี้...

[สังขวานร]

บ้านริมน้ำ วิวสวย น่าอยู่ ดูสงบ แต่ยามปลายฤดูฝนน้ำเหนือไหลหลาก สายน้ำเจ้าพระยาช่างเกรี้ยวกราด น่าสะพึงกลัว บางคราวนอนหลับต้องสะดุ้งตื่น เพราะสายน้ำกระโชก ตัวบ้านไหว สะเทือน ราวกับจะถูกถอน ประสบการณ์นี้ท่านที่อยู่ริมแม่น้ำใหญ่คงจะเคยคุ้นกันดี 
ขอบคุณมากครับ คุณOhchainat คุณposkorn และคุณpichitpol 
ว่างๆถ่ายรูปมาอวดกันบ้างนะครับ คุณtep 

[aodbu]

บรรยากาศบ้านพี่สังขวานรเจ๋งครับน่า ตั้งวงเล่า

[สังขวานร]

ที่ตั้งตัวบ้านเป็นวัดเก่าแก่ครับคุณ aodbu ที่ดินยังต้องเช่าจากกรมการศาสนามาตั้งแต่ครั้งรุ่นปู่ ตัวบ้านเป็นบ้านโบราณที่ชำรุดทรุดโซมไปตามกาลเวลา แต่ชีวิตริมน้ำก็มีสีสันไปอีกแบบหนึ่ง สมัยก่อนการคมนาคมเชื่อมต่อทางน้ำเป็นหลัก เรือแพที่สันจรผ่านหน้าบ้านจะพลุกพล่านเกือบทั้งวัน การบอกบุญเรี่ยรายก็มีเรือแล่นมาตามลำน้ำ แถวบ้านจะมีสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง ตกอยู่ตามบ้านเรือนไม่น้อย เพราะมีเรือแล่นขึ้นมาบอกบุญตามแม่น้ำเจ้าพระยา
ทุกวันนี้บ้านริมแม่น้ำค่อนข้างเงียบเหงาต่างไปจากเดิม เพราะการคมนาคมเปลี่ยนไปใช้ทางบกซึ่งสะดวกรวดเร็วกว่า   

[aodbu]

ที่มาจากวัดระฆังมาเรือเครื่องหรือเรือพายครับ
ผมเองฝันอยากมีบ้าน ที่มีศาลายื่นออกไปริมน้ำ ชอบมาก
แค่เห็นภาพบรรยากาศยังเคลิ้มเลย
แล้วในส่วนค่าเช่าคิดกันยังไงครับ

คนที่มีบ้านอยู่ติดริมน้ำส่วนมากจะเป็นคนใจเย็น และยังชอบทำบุญทำทาน แจกพระด้วย
เรื่องจริงนะครับพี่สังขวานร 

[สังขวานร]

- เรือบอกบุญที่มาจากวัดระฆัง หรือวัดอื่นๆ มาเรือยนต์ครับ พายเรือทวนน้ำขึ้นมา 250 กว่ากิโลเมตร คงจะพายไม่ไหว
- ที่ดินริมแม่น้ำบริเวณฝั่งที่กระแสน้ำพุ่งใส่มักจะถูกกัดเซาะพังไปทุกๆปีครับ สมัยรุ่นปู่บ้านผมอยู่ด้านในไม่ติดแม่น้ำ พอมารุ่นพ่อบ้านที่อยู่ริมน้ำถูกน้ำกัดเซาะพังไปบ้านผมเลยอยู่ติดน้ำ ในทุกวันนี้น้ำเซาะดินใต้ถุนบ้านเกือบจะพังมิพังแหล่ จะทำเขื่อนกันดินพังก็ไม่คุ้มเพราะตลิ่งสูงค่าลงทุนจะสูงมาก ในอนาคตบ้านคนที่อยู่ถัดๆเข้าไปก็จะมาอยู่ริมน้ำแทนที่ หมุนเวียนเปลี่ยนกันไป
- ค่าเช่าของกรมการศาสนาเก็บในอัตราเหมาคงที่มาหลายสิบปี ราวๆปีละ 50 บาทต่อแปลงครับ
- หากใช้ตรรกะว่าอุปนิสัยของคนจะเป็นไปตามสิ่งแวดล้อม คนริมน้ำก็น่าจะอารมณ์แปรปรวนครับ บางคราวสงบ เยือกเย็น พร้อมจะบำเพ็ญตนเพื่อผู้อื่น เหมือนสายน้ำยามเย็นที่รองรับเรือแพที่สัญจรผ่านไปมา บางคราวก็หยาบคาย เกรี้ยวกราด เหมือนกระแสน้ำเชี่ยวไหลบ่าถาโถม พร้อมจะทำลายทุกอย่างที่ขวางทางตน แต่ความเป็นจริงก็อาจไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเท่าที่ผมได้สัมผัส คนริมน้ำก็มีทุกรูปแบบ ดี ชั่ว ปนกันไป แต่ทุกผู้ทุกคนริมน้ำที่อยู่ที่ต่ำ น้ำท่วมถึง ต่างถูกกระแสน้ำแห่งกาลเวลา พัดพาไปสู่ทะเลที่เวิ้งว้าง ไร้ฝั่ง ที่เรียกว่า สังสารวัฎ 

[aodbu]

รู้สึกเหมือนฟังเทศน์เลยครับพี่สังขวานร

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ยึดมากก็ทุกข์มาก
ไม่ยึดก็ไม่ทุกข์

สุขจนไม่สุข ก็เป็นทุกข์
ทุกข์จนไม่ทุกข์ ก็เป็นสุข
พอกิน พออยู่ พอใช้ สามพอย่อมีสุข
คำสอนของพระอาจารย์อริยวังโสภิกขุ (ศดร.สุชาติ โกศลกิติวงศ์)เจ้าสำนักปู่สวรรค์ครับ

[prim]

ดีจังครับพี่ บ้านอยู่ไกล้วัด (ภาพแรกธรรมชาติดีจัง)

[สังขวานร]

ขอบคุณครับคุณ prim สมัยราว 50 ปีที่ผ่านมา ชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยาคึกคัก มีชีวิตชีวากว่านี้มากครับ เรือแพสัญจร หนาแน่น มีเรือโยงล่องซุงจากภาคเหนือลงไปส่งโรงเลื่อยทางกรุงเทพ มีเรือขายของชำแบบ 7-11 และเรือขายกาแฟ วิ่งกันทั้งวัน