ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน 18 เมษายน 2024, 07:11:20 AM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: เชิญบูชาล็อกเก็ตหลวงพ่อกวย บรรจุมวลสารพิเศษ http://www.watkositaram.com/forum/index.php?topic=8540.0

+  กระดานสนทนา วัดโฆสิตาราม (บ้านแค) จ.ชัยนาท
|-+  ทั่วไทย
| |-+  ความรู้เกี่ยวกับพระเครื่องเเละความรู้ทั่วไป
| | |-+  *** พระร่วงลพบุรี กรุถ้ำมหาเถร ***
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: *** พระร่วงลพบุรี กรุถ้ำมหาเถร ***  (อ่าน 25155 ครั้ง)
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« เมื่อ: 19 กันยายน 2007, 11:35:31 AM »

กระทู้เก่าจาก สารานุกรมพระเครื่อง ของคุณชินกรอบ
(เรื่องโดย จ.ส.อ.เอนก เจกะโพธิ์)

บันทึกการเข้า
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #1 เมื่อ: 19 กันยายน 2007, 11:36:38 AM »

ลพบุรี เป็นเมืองที่มีเทือกเขาทั่วไปในพื้นที่หลาย ๆ แห่ง และบางแห่งเทือกเขาเหล่านั้นมีลักษณะเป็นโพรงเป็นหลืบ เป็นถ้ำ เป็นช่อง มีความสูงต่ำของชั้นภูเขาไม่เท่ากัน บางเทือกเขามีความสูงชันลดหลั่นกันไปแล้วแต่ธรรมชาติ ตามเทือกเขาบางแห่ง เป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาพระภิกษุที่เคร่งในทางวิปัสสนา บางเทือกก็มีคนไปสร้างวัดสร้างวาไว้ก็มีภูเขาบางแห่งมีถ้ำ มีความสงบเงียบวิเวกวังเวง เหมาะแก่การที่จะไปหามุมสงบ ณ ที่นั้น ๆ ความเงียบ ความสงบ ย่อมเป็นที่ต้องการนักพรต นักบวช ทีมิอยากมายุ่งกับสังคมปัจจุบันอันเหลวแหลก ภิกษุสงฆ์บางองค์ก็แสนจะน่าเลื่อมใส บางองค์ก็หย่อนยานไปในเรื่องวินัยของสงฆ์ แต่ก็ยังมีดีมากกว่า เป็นเรื่องของธรรมดาโลก เพราะคนเรานั้นต่างมีจิตใจไม่เหมือนกัน จึงไม่ขอวิจารณ์
ถ้ำบางถ้ำหรือภูเขาบางลูกนั้นมีผู้คนที่มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในทางพระศาสนาได้นำวัสดุต่าง ๆ ไปสร้างเป็นวัด และยังสร้างพระประจำภูเขาเหล่านั้นก็มีมาก ดังมีตัวอย่างเช่น ในถ้ำเชียงดาว จ.เชียงใหม่, ถ้ำยะลา จ.ยะลา, ถ้ำจอมพล จ.ราชบุรี, ถ้ำพุพระ จ.กาญจนบุรี และถ้ำต่าง ๆ อีกหลายสิบถ้ำ แต่ละถ้ำล้วนมีพระภิกษุสงฆ์อาศัยอยู่แทบทั้งสิ้น ถ้ำบางถ้ำมีความสวยงามตามธรรมชาติ มีหินย้อยสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจเมื่อได้พบเห็น ยิ่งถ้ำเชียงดาว ถ้ำจอมพล ถ้ำยะลาด้วยแล้ว มีความสวยงามยิ่ง อากาศเย็นสบาย ทัศนียภาพทางธรรมชาติร่มรื่นเยือกเย็น น่านั่งพักผ่อน ถ้ำบางถ้ำในอดีตมีพระอยู่อาศัย แต่ในปัจจุบันกลับตรงกันข้ามไม่มีพระภิกษุสงฆ์อาศัยอยู่เลย ดังเช่น ถ้ำมหาเถร ของ จ.ลพบุรี ที่ ต.เขาสามยอด แต่ก่อนคงมีความรุ่งเรืองมาก ในปัจจุบันเป็นถ้ำร้างว่างเปล่า บรรยากาศเงียบเหงา ไม่มีผู้คนพลุกพล่านเหมือนแต่กาลก่อน ทำให้เป็นถ้ำที่รกร้างว่างเปล่าทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนนี้มีพระอยู่อาศัย
ถ้ำมหาเถรนี้เป็นถ้ำที่มีความใหญ่โตโอ่อ่า กว้างขวางใหญ่โตมโหฬารทีเดียว ด้านบนของถ้ำจะมีปล่องอากาศ ทำให้แสงแดดสาดส่อง มีความสว่างไสวไปทั่วบริเวณถ้ำ ทำให้ความมืดหายไปได้


* MT_1.jpg (52.81 KB, 323x501 - ดู 12611 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #2 เมื่อ: 19 กันยายน 2007, 11:37:40 AM »

ภายในบริเวณถ้ำมหาเถรอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ ได้มีผู้ใจบุญใจกุศลคนโบราณได้สร้างพระไว้ในถ้ำแห่งนั้นเป็นพระปางไสยาสน์ขนาดเขื่อง มีช่วงระยะความยาวประมาณ ๔ วาเศษ อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับเขาเอราวัณ เขตหมู่บ้านน้ำจั้น ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี สามารถบรรจุคนได้ประมาณ ๒,๐๐๐ คนเศษ ถ้ำแห่งนี้มีความสูงมาก พระปางไสยาสน์ที่อยู่ในถ้ำจะก่อด้วยอิฐถือปูน (ฉาบด้วยปูนขาว) องค์พระปิดทองทั้งหมด หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ เข้าใจว่าคงจะสร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ถ้ำนี้เป็นที่พำนักพักพิงของพระภิกษุสงฆ์ และสามเณรมาก่อนแน่นอน เพราะมีหลักฐานและร่องรอยของโอ่งน้ำ สิ่งของต่าง ๆ ซึ่งเป็นของเก่าแก่มากมายในบริเวณดังกล่าว แสงสว่างที่สาดส่องลงมายังช่องว่าง กระทบกับองค์พระ ทำให้มองเห็นพระถนัดถนี่ สวยซึ้งงดงามยิ่งนัก ถ้าเวลาแดดออกหรือเวลาแสงจันทร์เจิดจ้า แสงเหล่านั้นจะวิ่งมากระทบกับองค์พระ และสดสวยด้วยประกายของสีทอง แต่เป็นที่น่าเสียดายยิ่ง ที่พระในถ้ำนั้นไม่มีคนดูแลรักษา ขาดการบูรณะซ่อมแซม ขาดผู้คนอยู่อาศัย จึงทำให้เสื่อมโทรมไปตามธรรมชาติ และนับเป็นโอกาสของนักเผชิญโชคทั้งหลายในเมืองลพบุรี ที่คิดจะค้นหาของมีค่า และทรัพย์สินต่าง ๆ ภายในถ้ำนั้นขึ้นไปยังถ้ำดังกล่าว
มีนักขุดชุดหนึ่ง ได้มาบอกพวกพ้องอีกหลายคน และได้ตกลงกันให้หมอไสยศาสตร์ (พี่ชิต) บ้านเนินท่าโพธิ์ นั่งทางในทันที พอนั่งทางในเสร็จก็รู้ว่าภายในถ้ำนั้นมีพระอยู่จำนวนมาก (หมายถึงพระเครื่อง) บรรจุอยู่ภายในองค์พระปางไสยาสน์นั่นเอง เมื่อทุกคนต่างรู้เห็นเช่นนั้นก็แสนจะดีใจแล้วชวนกันขึ้นไปยังเทือกเขานั้นทันที ทุกคนเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือ พลั่ว จอบ เสียม ชะแลง ปุ้งกี๋ ข้าวสุก ข้าวสาร น้ำ อาหารคาวหวานพร้อมเพรียง ฟืน ไฟ ทุกคนมุ่งหน้าเดินทางสู่ถ้ำมหาเถรทันที


* MT_2.jpg (56.92 KB, 345x613 - ดู 18722 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #3 เมื่อ: 19 กันยายน 2007, 11:38:44 AM »

วันนั้นเป็นเดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๑๕ หลังเข้าพรรษาไม่นานนัก นักขุดชุดที่หนึ่งเชื่อในความแม่นยำ และความถูกต้องของอาจารย์ชิตมาก เมื่อทุกคนเดินทางถึงปากถ้ำ ก็กล่าวแต่คำพูดที่ดีมีมงคลเพราะทุกคนกลัวความอาถรรพณ์ คนดังกล่าวชุดแรกมีบัวหลวง เกษม ปุ๊ย ฉลาด เอียง อู๊ด บุญส่ง น้อย อ้อย ทั้ง ๙ คน ได้ตั้งศาลเพียงตา โดยนำขนมต้มขาว-ต้มแดง และธูปเทียนต่าง ๆ มาจากบ้าน แล้วสาบานกันว่าถ้าได้ของดีแล้วจะต้องแบ่งเท่า ๆ กัน เมื่อสาบานกันเสร็จ ทุกคนก็พูดจากันแต่คำที่ไพเราะเพราะพริ้ง ทุกคนค้นหาขุดคุ้ยตามหลืบ ตามซอก ตามมุม ของภูเขานั้นจนเกือบจะทั่ว ขุดค้นอยู่ประมาณ ๗ วัน เสบียงอาหารก็ร่อยหรอ ทุกคนอ่อนระโหยโรยแรงน้ำก็ไม่มีรับประทาน จึงต่างเก็บข้าวของเครื่องมือที่เตรียมมาทั้งหมด พร้อมภาชนะเตรียมกลับบ้าน
มีนักขุดคนหนึ่งในจำนวน ๙ คน ยังเชื่ออาจารย์ชิตอยู่ว่า ต้องมีของตามที่อาจารย์บอกแน่ ๆ แต่ยังไม่พบเอง ก็เกิดบันดาลใจจุดธูปจุดเทียนบอกเล่าเก้าสิบเจ้าที่เจ้าทางอีกครั้ง โดยกล่าวว่า สาธุ...เจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขา เจ้าที่ที่เผ้าถ้ำแห่งนี้ ขอให้ลูกช้างได้ประสบพบพระเถิดพระเจ้าข้า เมือบอกเสร็จไม่นานนักก็มีนักเผชิญโชคในกลุ่มเดียวกัน ได้เอาชะแลงงัดก้อนอิฐที่มีรอยร้าวรานอยู่ก่อน แล้วที่ใต้ฐานพระนอนนั้น (ตรงกลางฐานพระพอดี) ก็พบกับแผ่นหินกว้างประมาณ ๑ วาเศษ คนสามารรถนอนได้ มีความสวยงามเรียบร้อยปิดอยู่ที่กรุ มีหินทรายและอิฐก้อนเล็ก ๆ ปะปนกันอยู่ เมื่อทุกคนช่วยกันขุดคุ้ยดูก็พบกับรูปฝาชี โดยก่อเป็นยอดแหลม เมื่อคุ้ยต่อไปพบไห ๒ ใบ เข้าพอดี (ทุกคนเมื่อพบไหแล้วต่างก็ดีอกดีใจกันยกใหญ่) แต่ก็ยังไม่ทราบว่าภายในไหนั้นจะมีอะไรแน่ คนชื่อบัวหลวงก็เปิดไหออกดู โดยค่อย ๆ เอาสกูรไดรฟ์เซาะแทงยอดแหลมดู เพื่อให้อากาศถ่ายเท นานถึง ๔๐ นาที จึงเปิดดู ก็พบว่ามีพระเครื่องในไหนั้นเป็นจำนวนมาก เป็นพระยืนเนื้อชินเงินสวยงามมากพิมพ์หนึ่ง ทุกคนในชุดเผชิญโชคต่างยิ้มแย้มแจ่มใสหายง่วงหายเหงาเป็นปลิดทิ้งทันที การดีอกดีใจประกอบกับการได้พระ ทำให้ทุกคนไม่หิวแม้แต่น้ำดื่ม นักขุดค้นเคยว่าจ้างคนแถวน้ำจั้นให้เอาน้ำไปส่งที่ถ้ำ กระติกละ ๕ บาททีเดียว ทุกคนมีความอดทนและทนอดเป็นเยี่ยม ถ้ำแห่งนี้อยู่ด้านหลังหมู่บ้านน้ำจั้นนั่นเอง


* MT_3.jpg (65.22 KB, 366x595 - ดู 16386 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #4 เมื่อ: 19 กันยายน 2007, 11:40:06 AM »

พระชุดแรกที่นักขุดค้นพบนั้นมีด้วยกัน ๔๑๙ องค์ ไม่นับพระบูชา มีลักษณะเป็นพระปางประทานพร หรือที่ทุกคนเรียกว่าพระร่วง มีพิมพ์ใหญ่ ๓๐๐ องค์ พิมพ์เล็ก ๕๐ องค์ เป็นพระพิมพ์แบบลักษณะคล้ายนางและพระหูยานประมาณ ๖๙ องค์ เวลาที่ขุดคือตอนประมาณตี ๓ ของวันที่ ๒๑ ส.ค. ๒๕๑๕ หลังเข้าพรรษาไม่นานนัก ภายในไหนั้นจะมีพระบูชา และรูปสถูปหินสีเขียวหยก (หรือพระปรางค์) ซึ่งขณะนี้ก็ยังอยู่กับเสธฯทวี มีคนนำไปปล่อยให้ ๓,๐๐๐ บาท และมีพระสมัยลพบุรี ๑ องค์ พระอู่ทองนั่งอีก ๑ องค์ ด้านหน้าพระรูปพระปรางค์นั้นแกะเป็นรูปพระสมัยลพบุรี ๑ องค์ เมื่อได้แล้วก็นำออกจากถ้ำ แล้วนำมาตากให้พระแห้งที่บ้านคุณหลวง ใส่เสื่อตากอย่างดี และมีผู้เช่าพระกรุถ้ำมหาเถรองค์ที่สวยที่สุดไป ในราคาองค์เดียว ๒,๐๐๐ บาท เมื่อข่าวการพบกรุพระถ้ามหาเถร ล่วงรู้ไปถึงนักเล่นและนักนิยมพระอย่างทั่วไปแล้ว ก็มีการเสาะหากันให้ชุลมุนวุ่นวายไปหมด และในช่วงเวลานั้นเองก็มีนักเผชิญโชคชุดที่สองอยากจะร่ำรวยกับเขาบ้าง ก็ได้พยายามปีนป่ายขึ้นไปยังเทือกเขานั้นอีก คือ คุณสังเวียน และ คุณสมพงษ์ เติมผล สามล้อลพบุรี ได้นำสมัครพรรคพวกขึ้นไปขุดคุ้ยค้นหากันอีก ๑๑ คน ในถ้ำนั้นเช่นเดียวกัน ขุดกันอยู่ไม่นาน นักขุดค้นชุดที่สองก็พบ พระบูชา,พระร่วง และ พระหูยาน อีกจำนวน ๑ ไห ตรงปลายเท้าพระประธาน
ไหนั้นผู้เขียนได้เห็นมากับตาตัวเอง เป็นไหสีแดงสมัยเดียวกับสมัยอยุธยา ฉะนั้นจึงไม่ต้องให้ผู้เขียนบอกกับท่านว่าพระนี้ เป็นพระสมัยอะไร ให้ท่านไปคิดเป็นการบ้านก็แล้วกัน
ใครเป็นผู้สร้าง หรือสร้างเมื่อใด ไม่กะกำหนดไม่เดา เอากันว่าของที่ได้จากกรุถ้ำมหาเถรนี้เป็นพระออกจากกรุจริง ๆ และเป็นพระแท้ด้วย ขอรับประกันว่าเป็นของดีไม่ใช่ของเทียมก็แล้วกัน เมื่อคุณสังเวียนได้มาก็นำมาแบ่งสรรปันส่วนกันคนละเท่า ๆ กัน เรียกว่าไม่ต้องทะเลาะกัน เข้าใจกันดี แล้วก็ต่างคนต่างก็นำออกไปจำหน่ายให้กับผู้ที่อยากได้ในราคาองค์ละ ๑,๒๐๐-๑,๕๐๐ บาท สำหรับองค์งาม ๆ สวย ๆ ราคาไม่ต่ำกว่าครึ่งหมื่นค่อนหมื่น
จากเขาเอราวัณถึงถ้ำมหาเถร ระยะทางประมาณ ๓ กม. พี่ชิตหมอไสยศาสตร์กล่าวว่า พระนี้เป็นของพระยารามเดโชสร้างไว้ จะเท็จจริงอย่างไรนั้น ต้องไต่ถามคุณหมอเอง แต่ขอยืนยันว่าทั้งวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์นั้นมีจริงแน่ ถ้าไม่มีจริง จะพบของนั้นได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่หมอไม่เคยไปถึงถ้ำมหาเถรเลย แสดงว่าไสยศาสตร์มีจริง มนุษย์อวกาศจะขึ้นไปบนอากาศได้อย่างไรเพราะฉะนั้น เรื่องเหล่านี้ไม่ต้องถกเถียงกันให้เสียเวลาจริงไหมครับท่านที่เคารพ


* MT_4.jpg (67.71 KB, 562x496 - ดู 10576 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #5 เมื่อ: 19 กันยายน 2007, 11:41:39 AM »

ความมหัศจรรย์ในถ้ำมหาเถรมีหลายอย่างหลายสิ่งที่น่าคิดคือ คนที่ไปปัสสาวะหน้าถ้ำเกิดป่วยอย่างกะทันหัน และเสียชีวิตลงในเวลาอันรวดเร็ว (หมายถึงชุดหลัง) บางคนเกิดวิปริตทางจิตใจอย่างขนาดหนัก มีบางคนพูดว่าชุดหลังไม่เคยทำพิธีรีตองบวงสรวงบอกกล่าวเล่าสิบ หรือขอขมาให้ถูกต้องตามหลักไสยศาสตร์ สำหรับชุดที่ ๑ นั้น ทำถูกต้องตามพิธีกรรมที่หมอไสยศาสตร์บอกไป ผักพล่า ปลายำ ขนมต้มแดง-ขนมต้มขาว บวงสรวงเซ่นซ่าขอขมาตามประเพณีไม่พูดคำหยาบโลนโดยเด็ดขาด จึงไม่พบกับสิ่งประหลาดมหัศจรรย์ในถ้ำนั้น
ชาวลพบุรีที่ได้มากที่สุดในครั้งนั้นได้แก่ คุณสุทธิวัฒน์ นิติธัญญรัตนา คุณสุเจตน์ คุณประเสริฐ ต่อมาระยะหลังพระเริ่มหายากมากยิ่งขึ้น ก็มีการทำปลอมออกจำหน่ายกันเรื่อยมา โดยฝีมือคนลพบุรีเองปลอมได้แนบเนียน ราคาเริ่มแพงขึ้น พระก็เริ่มหายากขึ้น จึงเป็นที่ต้องการของประชาชนเป็นอันมาก เฮียกุ่ยเคยนำไปให้เสธ.ฯ ทวี ถึง ๓ องค์ พระกรุถ้ำมหาเถรเป็นพระที่มีความงามมาก เพราะเป็นพระที่ไม่เคยถูกน้ำท่วมเลย จึงมีความสมบูรณ์แบบทุกองค์น้อยองค์จะมีรอยระเบิดและผุกร่อน พระที่ได้ทั้งหมดมีทั้งพิมพ์เล็ก-พิมพ์ใหญ่ และมีพิมพ์นาง พระหูยาน และพระบูชารวมอยู่ด้วย แต่เป็นพระทีขัดสนิมแล้วนำไปบรรจุใหม่ แสดงว่าบรรจุในคราวหลัง โดยผู้สร้างหรือเจ้าของคนสร้างมีพระอยู่ก่อนแล้ว ลูกหลานเหลนอาจจะนำไปบรรจุไว้ในคราวหลัง เพื่อเป็นการรำลึกนึกถึงพระคุณของผู้วายชนม์ เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย เป็นต้น หรือเพื่อเป็นการสืบทอดพระศาสนาก็เป็นได้คงไม่ผิด
พุทธลักษณะของ พระร่วงกรุถ้ำมหาเถร มีลักษณะเหมือน พระร่วงกรุค่ายสมเด็จพระนารายณ์ฯ (เนื้อดิน) เหมือนกันเปี๊ยบเลย มีความงามเรียบร้อย แต่รายละเอียดค่อนข้างไม่ชัดเจนมากนัก ลวดลายอลังการของผนัง (ซุ้มประภามณฑล) เลือนรางแทบจะมองไม่เห็น กนกเป็นรอยตื้นไม่ชัดเจน ในกรุมีพระแปลกอยู่ ๑ องค์ เป็นพระเนื้อผงทับข้าว เจ้าของคนได้ (สามล้อ) ไม่ยอมปล่อย ขณะนี้ไม่ทราบว่าพระนั้นไปอยู่กับใครแล้ว น่าเสียดาย


* MT_5.jpg (56.64 KB, 528x496 - ดู 9172 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #6 เมื่อ: 19 กันยายน 2007, 11:43:14 AM »

พระร่วงกรุถ้ำมหาเถร มีขนาดส่วนสูงประมาณ ๗ ซม. ครึ่ง ความกว้างประมาณ ๒ ซม. ประทับยืนแบบพระร่วงทั่วไป (ปางประทานพร) คือยกพระหัตถ์ขวา พระเกตุมาลาคล้ายดอกบัวตูม ลักษณะของพระศกแบบจีโบ (กระจัง) จะเห็นเส้นขอบกระจังชัดเจนเป็นบางองค์ บางองค์ไม่ค่อยชัดเจน กนกข้างบางองค์ก็เห็นรำไร บางองค์ก็ไม่เห็นเลยพระเนตร พระนาสิก พระโอษฐ์ บางองค์ก็เห็นชัดเจน บางองค์ไม่เห็นเลย
ในรูปทังหมดนี้เป็น ของแท้ ทั้งหมดศิลปอยู่ใน ตระกูลลพบุรี
ด้านหลังของพระร่วงกรุถ้ำมหาเถรนี้ โดยมากจะไม่ใช่ผ้ากดพิมพ์ จะใช้ไม่ไผ่กลม ๆ กด ปาดไปปาดมา เพราะไม้ไผ่ทนทานความร้อนได้ดี ส่วนหลังผ้านั้น เท่าที่พบมีน้อยเหลือเกิน เกือบจะไม่มีเอาเลยทีเดียว
สำหรับของเทียมนั้น โดยมากจะ กดด้วยผ้าใบหยาบ ๆ เพราะเคยพบเห็นคนที่ทำ สำหรับเนื้อหาสาระของเทียมนั้นมีส่วนใกล้เคียง แต่ต้องใช้หลักวิทยาศาสตร์เข้าช่วย
ประชาชนคนทั่วไปยกย่องเรียกขานชื่อเสียงเรียงนามของท่านว่า พระร่วง คำว่าพระร่วงนี้เป็นคำที่มีความสำคัญยิ่ง และมีความหมายที่สุด มีอันดับขึ้นหมายเลขหนึ่งมีชื่อเสียงนำหน้ากว่าพระชนิดใด ๆ ทุกแบบพิมพ์ มีบางคนเชื่อกันว่าพระร่วงเป็นพระที่มีคุณวิเศษยอดเยี่ยม เพียบพร้อมไปด้วยคุณค่า สนนราคาก็แพงกว่าพระอื่น ๆ ในบรรดาพระกรุด้วยกัน มีทั้งปางประทานพร ยืน และพิมพ์นั่ง


* MT_6.jpg (116.54 KB, 364x544 - ดู 14511 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #7 เมื่อ: 19 กันยายน 2007, 11:50:16 AM »

พระร่วงกรุถ้ำมหาเถรองค์นี้ ผมบูชาท่านติดตัวมานานหลายปี เป็นพระกรุราคาสูงองค์แรกที่ผมกัดฟันสะสม ยังนับว่าโชคดีที่ตัดสินใจสู้ราคาในตอนนั้น เพราะเวลานี้พระร่วงกรุถ้ำมหาเถรสภาพสวยๆ ราคาสูงมาก  ยิงฟันยิ้ม


* MT_7.jpg (23.34 KB, 150x363 - ดู 8942 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
pichitpol
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 843



« ตอบ #8 เมื่อ: 19 กันยายน 2007, 08:34:58 PM »

พระร่วงกรุถ้ำมหาเถรองค์นี้ ผมบูชาท่านติดตัวมานานหลายปี เป็นพระกรุราคาสูงองค์แรกที่ผมกัดฟันสะสม ยังนับว่าโชคดีที่ตัดสินใจสู้ราคาในตอนนั้น เพราะเวลานี้พระร่วงกรุถ้ำมหาเถรสภาพสวยๆ ราคาสูงมาก  ยิงฟันยิ้ม
    สงสัยองค์นี้นี่เองทำเอาป๋า..คิดฮอดไปหลายวัน โทรคุยกันเห็นว่าวันที่เจอกันกับป๋าแขวนมาสุดๆทั้งนั้นนี่ครับพี่สังขวานร พระกรุอมตะตลอดกาล พระอื่นไปตามกระแสตลาด พระกรุไม่มีกระแสตลาดไม่มีตกมีแต่ขึ้นและขึ้นไปทีละไม่น้อยเสียด้วย..ส่วนใหญ่พระมักจะอยู่ในมือนักสะสมมีระดับ เมื่อก่อนนี้ในตระกูลของพระร่วงยืนความนิยมท่านมาท้ายๆแต่เดี๋ยวนี้ถ้ำมหาเถรฟังราคาท่านแล้วขนลุกนะครับ  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
โอ๋ ชัยนาท
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,984


นะสิวัง พรหมมา มะอะอุ


« ตอบ #9 เมื่อ: 19 กันยายน 2007, 08:47:37 PM »

ขอศึกษาด้วยคนครับ  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
aodbu
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 791



« ตอบ #10 เมื่อ: 19 กันยายน 2007, 09:14:34 PM »

อ่านเพลินจริงๆ ครับพี่สังขวานร
สมัยนี้คงไม่มีเรื่องผจญภัยแบบนี้แล้ว ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

หลวงพ่อโตลงมาทรงงานในโลกมนุษย์ที่สำนักปู่สวรรค์
www.poosawan.org
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #11 เมื่อ: 19 กันยายน 2007, 09:51:07 PM »

เมื่อครั้งขึ้นเหนือไปคารวะป๋าtoi เข้าใจว่ามีแต่พระสวนบูชาติดตัวไปครับคุณ pichitpol  ยิงฟันยิ้ม
ที่ผมชอบสะสมพระกรุ ก็สืบเนื่องมาจากพระเกจิที่เรานับถือ หากย้อนสายครูของท่านไปเพียงไม่กี่รุ่น ก็จะต้องลงที่กรุ อาทิเช่นสายวัดพระปรางค์ที่เรานับถือ ถัดจากหลวงพ่อกวยของพวกเราขึ้นไปก็เป็นหลวงพ่อศรี ถัดจากหลวงพ่อศรีขึ้นไปก็เป็นหลวงพ่อไกร วัดท่าฉนวน ซึ่งพระของท่านก็เป็นพระกรุวัดท่าฉนวน (แถมราคายังถูกกว่าพระหลวงพ่อศรี และหลวงพ่อกวย ในหลายๆรุ่นอีกด้วย)  ยิ้มเท่ห์

ศึกษาแล้วค่อยสะสมครับคุณ Ohchainat  ยิ้ม

ฟังเรื่องเล่าของนักขุดพระรุ่นเก่าๆ เหมือนฟังนิทานเลยนะครับคุณaodbu  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
toi
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: 19 กันยายน 2007, 11:14:57 PM »

เยี่ยมยอดครับ ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
angel1
Register Member
Full Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 112



« ตอบ #13 เมื่อ: 20 กันยายน 2007, 02:54:27 AM »

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ.. ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #14 เมื่อ: 20 กันยายน 2007, 09:43:33 AM »

ขอบคุณครับพี่ toi  ยิงฟันยิ้ม
ด้วยความยินดีครับ คุณangel1   ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
tongn005
Administrator
Hero Member
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,222


singhakhakha@hotmail.com


« ตอบ #15 เมื่อ: 20 กันยายน 2007, 06:22:19 PM »

ข้อมูลเยี่ยมาก พระกรุเเละข้อมูลเก่าๆ คนรุ่นหลังๆจะลืมกันหมดเเล้ว เพราะมัวไปเช่าพระเชียร์ใหม่ๆที่มีลงในสื่อต่างๆของยุคโลกาภิวัฒน์ เศร้า
บันทึกการเข้า

อะปะจะคะ ปะจะคะอะ จะคะอะปะ คะอะปะจะ
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #16 เมื่อ: 21 กันยายน 2007, 08:03:16 AM »

อ้างถึง
พระกรุเเละข้อมูลเก่าๆ คนรุ่นหลังๆจะลืมกันหมดเเล้ว เพราะมัวไปเช่าพระเชียร์ใหม่ๆที่มีลงในสื่อต่างๆของยุคโลกาภิวัฒน์

เห็นด้วยกับคุณ tongn005 และเป็นห่วงเพื่อนนักสะสมครับ หากติดตามกระแสพระเครื่องมาสักระยะหนึ่ง จะเห็นกระบวนการในการทำการตลาด การกักตุนของที่จะทำกำไร การปลุกกระแสความนิยม การแสวงผลกำไรเชิงการค้าส่ง ค้าปลีก หาบเร่ แผงลอย ฯ คอยจับตาดูกระแสการแสวงหาผลประโยชน์จากพระพิฆเณศให้ดีๆครับ  ร้องไห้
บันทึกการเข้า
หนุ่มทิพย์
Register Member
Full Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 126


« ตอบ #17 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2007, 01:37:53 PM »

"คอยจับตาดูกระแสการแสวงหาผลประโยชน์จากพระพิฆเณศให้ดีๆครับ"
เห็นด้วยกับประโยคนี้ครับ.. ยิ้ม
บันทึกการเข้า
หลานศิษย์
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 955



« ตอบ #18 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2007, 08:25:45 PM »

พระกรุเก่าไม่ใช่ว่าคนรุ่นใหม่ๆไม่อยากจะสะสมกัน แต่เพราะสมัยก่อนๆไม่มีการเก็บข้อมูลและบันทึกที่ดี ทำให้ข้อมูลไม่แพร่หลาย แถมองค์พระก็มีการทำปลอมกันมากมายแถมเหมือนซะด้วย ซ้ำราคาก็สูงลิ่วๆและสุดท้ายคือไม่มีของแท้ๆให้ดูครับ ก็เลยไม่รู้ว่าจะสะสมยังไง เลยหันไปหาพระรุ่นใหม่ๆสบายใจกว่า
บันทึกการเข้า

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ไม่ควรอ่านเกินวันละสองครั้ง เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรอ่านตามลำพัง  ^L^
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #19 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2007, 12:44:20 PM »

     นักสะสมรุ่นเก่าท่านจึงแยกกลุ่มพระบูชา พระกรุ พระเกจิเก่า พระเกจิใหม่ และเครื่องราง ตามความชอบของแต่ละคน  เมื่อมีความรักความชอบ ก็มีความสนใจไฝ่รู้ หากเป็นคนที่จิตใจเปิดกว้าง ช่างสังเกตุ และได้ครูทีชำนาญและมีความจริงใจถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้ ก็มีโอกาสที่จะดูพระเป็น และพอเอาตัวรอดจากวงการพ่อค้าพระได้ เท่าที่ผมได้ฟังมาคนรุ่นเก่าๆมักไม่ชอบสอนใคร เพราะกลัวพวกลูกศิษย์คิดล้างครู ซึ่งมีให้เห็นอยู่มากมายในวงการนี้  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.10 | SMF © 2006-2008, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!