*** ตะกรุดชุด หลวงพ่อแป้น วัดบ้านไร่ ***

[สังขวานร]

(ย่อจาก ลานโพธิ์ ๙๕๑ เดือนพฤษภาคม ๒๕๔๙ ซึ่งเขียนโดย... จ.ส.อ. เอนก เจกะโพธิ์)

[สังขวานร]

    หลวงพ่อพระครูแป้น หรือหลวงพ่อแป้น แห่งวัดบ้านไร่ พระคณาจารย์ที่มีความสำคัญยิ่งองค์หนึ่ง มีความเคร่งครัดในบทบัญญัติของสงฆ์ มีกิตติศัพท์ และชื่อเสียงเลื่องลือ ระบือไกลทั่วแคว้นแดนสยาม ยิ่งในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยแล้ว ใครไม่เคยได้ยินชื่อก็แสนจะเชยซะจริงเชียว รู้สึกว่ายังหาพระคณาจารย์องค์อื่นในสมัยเดียวกันเทียบเทียมยากสักหน่อย “หลวงพ่อแป้น แฮ่นบ่เข้า” เป็นคำกล่าวของนักนิยมเหรียญโดยทั่วไป
     หลวงพ่อแป้น ได้ร่ำเรียนวิชาไสยศาสตร์มาจาก พระอาจารย์ “พรหม” หรือหลวงพ่อพรหม (ไม่ใช่หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค) ซึ่งเป็นอาจารย์มาจากภาคอีสาน และเรียนวิชาไสยศาสตร์มากับอาจารย์สีหรือหลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ (เข้าใจว่าแลกวิชากัน เนื่องจากท่านเป็นพระรุ่นราวคราวเดียวกัน…สังขวานร) พระคุณท่านได้ร่ำเรียนวิชาจนกระทั่งแกร่งกล้าเชี่ยวชาญ มีความสามารถเป็นเยี่ยม เรียกว่าเรืองวิทยาคมจริงๆ จนกระทั่งทำให้ชื่อเสียงได้เลื่องลือระบือไกลทั่วทั้งเจ้าพระยา เป็นที่โจษขานกันเป็นเสียงเดียวกันว่า หลวงพ่อแป้นเป็นพระที่มีเมตตาธรรมสูงส่ง วัตถุมงคลต่างๆ ที่พระคุณท่านสร้างขึ้นไว้เป็นที่ระลึกแก่บรรดาศิษย์และญาติโยม ล้วนเป็นของดีมีคุณค่ามหาศาล ปัจจุบันราคาเป็นหมื่นเป็นพัน และหายากมากครับ ที่มีอยู่ขณะนี้คงอยู่กับลูกศิษย์และชาวบ้านใกล้ๆ วัดโดยมาก เช่น เหรียญ และมงคลสามสาย (สังวาล), พระยง, ตะกรุดโทน, ผ้ายันต์, มหาอุด, แหวน และที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือ มงกุฎพระเจ้า (คาถาของหลวงพ่อ) ดังจะได้เขียนให้ท่านได้อ่านในตอนท้ายๆ
     สำหรับเหรียญนั้นโดยมากเป็นเหรียญเงิน เหรียญทองแดง ดังในภาพ (ด้านหน้าและด้านหลัง) เป็นรูปของหลวงพ่อเต็มองค์ ด้านล่างจะมีคำว่า หลวงพ่อพระครูแป้น ด้านหลังจะมียันต์ พระเจ้าห้าพระองค์ เหรียญทองแดงมีน้อยกว่าเหรียญเงิน (เหรียญเงินมีมากกว่า) ช่างคนทำเหรียญเป็นร้านช่างทองเป็นผู้รับจ้างทำ สำหรับแม่พิมพ์นั้นช่างทองได้เป็นผู้เก็บไว้ (ไม่ได้ทำลาย) จึงมีการทำปลอมขึ้นบ้างในภายหลัง จนกระทั่งร้านทองร้านนั้นได้อันตรธานหายสาบสูญไปตามประกาศิตของหลวงพ่อ คือท่านเคยพูดว่า “ใครจะปลอมของฉัน ก็ขอให้วิบัติต่อไป” และแล้วคำประกาศิตนั้นก็เริ่มเป็นจริงอย่างปากของหลวงพ่อ ร้านทองดังกล่าวก็มีอันวิบัติทันตาเห็น

[สังขวานร]

     สมัยก่อนไม่มีการแลกเปลี่ยน หรือเช่า, ให้เช่า เหมือนปัจจุบันนี้ ราคาจึงไม่มีใครกำหนด เว้นไว้แต่ผู้มีจิตศรัทธาสละทรัพย์จำนวนเท่านั้นเท่านี้ ก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการวัดและศิษย์จะกำหนดขึ้นเอง เรียกว่าสมัยก่อนขอกันได้ ยืมกันได้ จะไปสงครามที หรือจะออกรบราต่างๆ นานา ขอยืมกันได้ ไม่เหมือนสมัยนี้ คณะกรรมการวัดกำหนดให้แก่ผู้สละทรัพย์ 10 บาท จะได้เหรียญทองแดง 1 เหรียญ และสละทรัพย์ 15 บาท และได้เหรียญเงิน 1 เหรียญ สละทรัพย์ 20 บาท จะได้ตะกรุดโทน 1 ดอก เป็นการสละทรัพย์เพื่อสร้างศาลา และพระอุโบสถ เหรียญและวัตถุต่างๆ ให้ไว้เป็นเครื่องตอบแทน เป็นที่ระลึกและอนุสรณ์เท่านั้น มิได้มีเจตนาจะให้เช่า ของทุกอย่างที่ออกมาในครั้งนั้นไม่มีเหลือ แต่คงอยู่กับชาวบ้านและญาติโยมเป็นส่วนมากและทั่วไป
     ความโด่งดังของท่านนั้น โด่งดังในเรื่องเครื่องรางของขลัง ทางไสยศาสตร์ท่านเก่งมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำมนต์ หรือวัตถุมีผู้นำไปใช้ได้ผลดียิ่ง หลวงพ่อเป็นผู้ที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ใบหน้าของหลวงพ่อมีลักษณะคนเกรงขามมากที่สุด ลูกศิษย์ลูกหากลัวมาก เวลาลูกศิษย์ทำผิดระเบียบวินัย หลวงพ่อจะเฆี่ยนด้วยหางกระเบนหรือหางราหูเพื่อให้เข็ดหลาบ ศิษย์ของท่านที่ถูกเฆี่ยนได้ดีทุกคน เวลาทางวัดมีงานประจำปีก็ดี หรืองานจรก็ดี โดยมากไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่มาดูแลในงานนั้น หลวงพ่อว่าไม่ต้องเสียงบประมาณ และงานนั้นก็เรียบร้อยดี หากมีผู้ที่เกาะกะระราน หลวงพ่อจะให้คนจับเอาโซ่ล่าม พอรุ่งเช้าก็ปล่อย หางราหูและหางกระเบนนั้นท่านจะถือของท่านเป็นประจำ เวลามีลิเก ละคร หลวงพ่อบอกให้นั่ง ก็จะนั่งกันราบเรียบเหมือนกับทหารที่มีระเบียบไม่มีผิด (หรือราบเรียบเป็นหน้ากลองทีเดียว)
     วันหนึ่งมีการแห่ฉลองช่อฟ้าพระอุโบสถ คนนอกวัดเมากันให้แประทีเดียว พอเข้าวัดหายเมาทันที เพราะบารมีของหลวงพ่อ มีคนเกรงกลัวไปเอง ไม่ได้ด่าไม่ได้ตีอะไรเลย ลิเกต่างๆ หรือมหรสพไม่ต้องมีการหา “มาแสดงเอง” ไม่ว่าปี่พาทย์มโหรี โดยมากไม่ต้องหา ไม่ต้องจ้าง อำนาจและบารมีของหลวงพ่อนั้นมีคนพูดกันว่า “บารมีของหลวงพ่อมีมากล้นเหลือหลาย” ลูกศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อมีด้วยกัน 3 องค์ คือ หลวงพ่อดวง วัดทอง, หลวงพ่อช่วง วัดแหลมคาง, หลวงพ่อฟุ้ง วัดสะเดา
     ที่อินทร์บุรีบ้านผม ชื่อเสียงของหลวงพ่อแป้น วัดบ้านไร่ จะโด่งดังคู่กันกับหลวงพ่อลา วัดโพธิ์ศรี  เหรียญรุ่นแรกของท่านเนื้อทองแดงจะแพงกว่าเนื้อเงินเกือบเท่าตัว ส่วนตะกรุดของท่านแม้แต่จะหาชมยังหาได้ยาก เพราะคนรุ่นหลังไม่รู้จัก จึงชำรุดสูญหายไปตามกาลเวลา

[สังขวานร]

     ในด้านพุทธคุณของเหรียญนั้น ยอดเยี่ยมทางด้านแคล้วคลาด คงกระพัน และมหาอุด มีประสบการณ์มาแล้วอย่างโชกโชน จนเป็นที่เลื่องลือกันมาก เมื่อหลายปีมาแล้ว มีชาวบ้านแถบวัดบ้านไร่ท่านหนึ่งคล้องเหรียญหลวงพ่อแป้นติดตัวอยู่เป็นประจำ ถูกคู่อริดักยิงด้วยปืนเอ็ม ๑๖ นับเป็นร้อยนัด ขนาดเส้นผมของชายผู้นั้นขาดกระจุย แต่คมกระสุนไม่สามารถทำอันตรายต่อเขาได้เลย ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่เล่าขานกันทั่วจังหวัดสิงห์บุรี มาจนถึงวันนี้

หมายเหตุ:
หลวงพ่อลา วัดโพธิ์ศรี ชาตะ พ.ศ.2404  มรณภาพ พ.ศ.2486
หลวงพ่อแป้น วัดบ้านไร่ ชาตะ พ.ศ.2410  มรณภาพ พ.ศ.2494
หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ ชาตะ พ.ศ.2413  มรณภาพ พ.ศ.2485

[สังขวานร]

     ตะกรุดชุด ๙ ดอก (นวหรคุณ)  เป็นตะกรุดเนื้อเงิน 5 ดอก เนื้อตะกั่ว 4 ดอก ยาวดอกละประมาณ 1 นิ้ว จารทั้งนอกและในตะกรุดทุกดอก ชุดนี้เชือกเดิมๆ หาดูได้ยากมากครับ 

[สังขวานร]

ตะกรุดเนื้อเงินดอกนี้ ด้านนอกจารยันต์ห้า นะโมพุทธายะ 

[สังขวานร]

เชือกเดิมๆ เป็นแบบนี้ครับ 

[สังขวานร]

ตะกรุดชุด ๕ ดอก เป็นตะกรุดเนื้อตะกั่วล้วน ขนาดเท่ากับ ๙ ดอก 

[สังขวานร]

 

[JOKER]

ข้อมูลเยี่ยมพี่....

[sidwat]

ยอดเยี่ยมครับคุณสังขวานร

[pichitpol]

น่าจะหลุดมาทางผมสักสามสี่ดอกนะครับพี่สังขวานร... ...

[สังขวานร]

ขอบคุณครับคุณjoker คุณsidwat และคุณpichitpol 

[สังขวานร]

น่าจะหลุดมาทางผมสักสามสี่ดอกนะครับพี่สังขวานร... ...

   สามสี่ดอกน่ะมันไม่ครบสูตรครับคุณ pichitpol ต้องหลุดไปทั้งสายนั้นแหละจึงจะครบเครื่อง 

[bear17]

สุดยอดครับ.. พี่สังขวานร...หลวงพ่อซวงเป็นศิษย์ท่านด้วยหรือปล่าวครับพี่ หลวงพ่อดวงผมได้กราบท่านบ่อยครับท่านเก่งและมีเมตตาสูงครับ..หลวงอาผมต่อวิชากับท่านครับเพราะหลวงพ่อทองท่านบอกไว้ว่าถ้าติดขัดตรงไหนให้ไปถามกับหลวงพ่อดวง หลวงพ่อพิมพ์ และ.........ครับเลยได้มีโอกาสได้กราบท่านทั้ง2องค์บ่อยครับ(เพราะจะไปกับหลวงอาเกือบทุกครั้งครับได้วัตถุมงคลมาเยอะครับไปครั้งท่านก็ให้มาครั้ง) ขอร่วมแจมตะกรุดยุคใกล้เคียงกันนะครับแต่ไม่ถึงเก้าครับมีแค่เจ็ด ;Dเป็นตะกรุดชุดเจ็ดดอกของหลวงพ่อศรีครับสายเดิมขาดไปแล้วลุงผมทำสายขึ้นมาใหม่ครับ...

[สังขวานร]

     สวัสดีครับพี่ bear17 หลวงพ่อซวง ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อแป้น อยุธยา คนละองค์กับหลวงพ่อแป้น วัดบ้านไร่อินทร์บุรี ครับ 
     
     หนังสือบางเล่มเขียนว่าหลวงพ่อแป้น เรียนวิชาจากหลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ แต่ผมคิดว่าหลวงพ่อแป้น แก่พรรษากว่า 3 ปี ท่านน่าจะแลกวิชากันมากกว่า ไม่ทราบตุณ bear17 มีข้อมูลบ้างหรือเปล่าครับ เท่าที่ทราบหลวงพ่อแป้นกับหลวงพ่อเชน วัดสิงห์ (ศิษย์อาวุโส สายวัดพระปรางค์) ท่านสนิทสนมกันมาก วัดอยู่ฝั่งตรงกันข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เหรียญหลวงพ่อแป้น รุ่นสี่ ท่านวานให้หลวงพ่อเชนเสกแทน แสดงว่าท่านไว้ใจหลวงพ่อเชนมาก หลวงพ่อฟุ้ง วัดสะเดา ยังมาเรียนวิชากับท่าน หรือแม้แต่หลวงพ่อพูล วัดสังฆราชาวาส เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี ผู้มีอาคมขลัง ยังนั่งเรือหางยาวมาเรียนวิชากับหลวงพ่อแป้น...ผู้เฒ่าที่วัดบ้านไร่เล่าให้ผมฟังว่าหลวงพ่อเดิม ท่านยังเคยขี่ม้ามาเยี่ยมเยียนหลวงพ่อแป้น ที่วัดบ้านไร่ จึงมีมีดหมอและพระงาแกะหลวงพ่อเดิม ตกอยู่แถบวัดบ้านไร่มิใช่น้อย...โลหะเงินที่นำมาสร้างเหรียญและตะกรุดหลวงพ่อแป้นมีเอกลักษณืคือรีดไม่เรียบ 

[tongn005]

ข้อมูลยอดเยี่ยมมากครับพี่สังขวานร
หลวงพ่อเเป้น เหรียญท่านหายากมาก เหรียญหลักของสิงห์บุรีัด้วย

[bear17]

ผมไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับประวัติเกจิอาจารย์เลยครับบอกตามตรงผมไม่เคยค้นคว้าเลย เคยได้ยินเขาพูดกันผมก็ฟังๆไว้ เพราะฟังเพลินดี ผมชอบฟังไม่ชอบค้นครับ.. หลวงพ่อซวงท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อแป้น อยุธยาหรอครับ ขอบคุณครับที่บอก ผมเห็นหลังรูปท่านเขียนหลวงพ่อแป้นผมก็นึกว่าหลวงพ่อแป้นสิงห์บุรี หลวงพ่อแป้นกับหลวงพ่อศรีผมไม่มีข้อมูลเลยครับว่าเรียนวิชาหรือแลกเปลี่ยนวิชากันไหม เพราะปู่ผมที่เป็นศิษย์หลวงพ่อศรีตั้งแต่ตอนปู่เป็นเณรท่านเสียชีวิตไปแล้วไม่งั้นผมจะไปถามให้ แต่ว่าหลวงพ่อศรีท่านเป็นอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากัมฐาน สมัยก่อนจะมีพระมาเรียน วิปัสสนากับท่านเยอะมาก ไม่ว่าใกล้ไกล ผมถือว่าการมาศึกษากับหลวงพ่อศรี นี้ถือว่าเป็นด่านแรกของการเรียนวิชาเลยครับ...ดูอย่างภาพคณะศิษย์ของท่านร่วมกันถ่ายรูปขณะนั้นซิครับยังหนุ่มๆกันทุกองค์เลย หรือว่าบางทีก็เพิ่งบวชกันใหม่ๆด้วยซ้ำไปครับ ดูอย่างหลวงพ่อกวย หลวงพ่อแพ หลวงพ่อบัว หลวงพ่อทองซิครับ ดูหนุ่มๆกันอยู่เลยครับ... ......1..หลวงพ่อแพ 2 หลวงพ่อกวย 3หลวงพ่อทอง 4หลวงพ่อบัว......

[สังขวานร]

     ขอบคุณมากครับคุณ bear17 ไม่ทราบว่าในบรรดาศิษย์หลวงพ่อศรี มีใครอาวุโสเกินหลวงพ่อเชน วัดสิงห์หรือไม่ครับ เพราะขนาดหลวงพ่อฟุ้ง วัดสะเดาก็ยังหลังรุ่นหลวงพ่อเชน หลวงพ่อทองกับหลวงพ่อกวยใครแก่พรรษากว่าครับ 

[bear17]

หลวงพ่อกวยแก่พรรษากว่าครับ...หลวงพ่อกวย เกิด วันที่2 พฤศจิกายน พ.ศ2448 หลวงพ่อทอง เกิด วันที่27เมษายน พ.ศ 2452 หลวงพ่อกวย อุปสมบท วันที่5 กรกฏาคม พ.ศ2467 หลวงพ่อทองบวชเณรอยู่ปฎิบัติหลวงพ่อศรีจนอายุครบบวชจึงได้อุปสมบท วันที่15พฤษภาคม พ.ศ2472 ส่วนศิษย์องค์ไหนอาวุโสสุดผมไม่ทราบครับ