ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน 19 เมษายน 2024, 07:26:40 PM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: เชิญบูชาล็อกเก็ตหลวงพ่อกวย บรรจุมวลสารพิเศษ http://www.watkositaram.com/forum/index.php?topic=8540.0

+  กระดานสนทนา วัดโฆสิตาราม (บ้านแค) จ.ชัยนาท
|-+  ทั่วไทย
| |-+  ความรู้เกี่ยวกับพระเครื่องเเละความรู้ทั่วไป
| | |-+  *** ประวัติการสร้างเหรียญพระแก้วมรกต พ.ศ. ๒๔๗๕ ***
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: *** ประวัติการสร้างเหรียญพระแก้วมรกต พ.ศ. ๒๔๗๕ ***  (อ่าน 38190 ครั้ง)
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« เมื่อ: 11 ตุลาคม 2007, 01:19:37 PM »

ภาพประกอบคัดลอกจากเว้ป สารานุกรมพระ  ยิ้มกว้างๆ


* prakaew.jpg (77.53 KB, 457x460 - ดู 48208 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #1 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2007, 01:22:08 PM »

     วัดพระศรีรัตนศาสดารามได้ก่อสร้างพร้อมกับสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ ในสมัยรัชกาลที่ 1 (พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก) ในปี พ.ศ. 2325 โดยก่อสร้างวัดในเขตพระราชฐานและได้ทรงอัญเชิญพระแก้วมรกตจากกรุงเวัยงจันทร์ ประเทศลาวมาประดิษฐานไว้ ณ วัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง) เพื่อเป็นมิ่งขวัญและสิริมงคล
     
     ต่อมาปี พ.ศ. 2327 จึงทรงแห่อัญเชิญจากวัดอรุณราชวรารามมาประดิษฐานยังวัดพระศรีรัตนศาสดารามพร้อมกับทรงสร้างบุษบกทองคำเพื่อทรงพระแก้วมรกต
   
     เหรียญพระแก้วมรกตได้จัดสร้างเป็นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 6 เนื่องในพิธีฉัตรมงคล ปี พ.ศ. 2461 โดยสั่งจากบริษัทธอมัสเดอราลู เบ็น (บล็อกนอก) มีเนื้อทองคำ เงิน ทองแดง และนิเกิล
   
     ในปี พ.ศ. ๒๔๗๐ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ให้ทันกับการสมโภชกรุงเทพมหานครครบ ๑๕๐ ปี ใน พ.ศ.๒๔๗๕ โดยมี สมเด็จพระบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงเป็นประธานคณะกรรมการ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชศรัทธา อุทิศพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ รัฐบาลอนุญาตเงินแผ่นดินอุดหนุน ส่วนที่ยังขาดอยู่ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้กรรมการจัดดำเนินการเรี่ยไรพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชนทั่วไป เพื่อให้ได้มีโอกาสบำเพ็ญกุศลร่วมกัน โดยให้กระทรวงพระคลัง มหาสมบัติจัดพนักงานรับเรี่ยไร โดยมีใบเสร็จ และเหรียญพระแก้วตอบแทน เป็นที่ระลึก ปรากฏว่ามีผู้บริจาคเงินเป็นจำนวนมาก จนต้องมีการระดมกำลังจัดสร้าง เหรียญพระแก้วมรกต ที่ระลึกกรุงรัตนโกสินทร์ ๑๕๐ ปี เป็นการใหญ่โดยได้ว่าจ้างหลายบริษัททำการผลิตเหรียญขึ้น (บล็อกใน) โดยมีบล็อกเพาะช่าง ฮั่งเตียนเซ้ง สุวรรณประดิษฐ์ มีเนื้อทองคำ เงิน ทองแดง และนิเกิลเช่นเดียวกันกับปี พ.ศ. 2461
บันทึกการเข้า
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #2 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2007, 01:24:43 PM »

     ลักษณะเหรียญเป็นแบบปั้มกลมแบนขอบเลียบ ด้านหน้าเหรียญ ภายในซุ้มเรือนแก้วเป็นรูป พระแก้วมรกต ประทับนั่งบนฐานบัวคว่ำบัวหงาย มีผ้าทิพย์ห้อย และดอกไม้ อยู่โดยรอบ ด้านหลังเหรียญ เป็นรูปยันต์กงจักร มีอักษรจารึก มรรคมีองค์  ๘  อักขระขอมที่ปรากฏคือ

     ทิ คือ สัมมาทิฐิ
     สํ คือ สัมมาสังกัปโป
     วา คือ สัมมาวาจา
     กํ คือ สัมมากัมมันโต
     อา คือ สัม อาชิโว
     วา คือ สัมมา วายาโม
     ส คือ สัมมา สติ
     สํ คือ สัมมาสมาธิ
บันทึกการเข้า
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #3 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2007, 01:27:02 PM »

* รายนามพระเกจิอาจารย์ ที่เข้าร่วมพิธีปลุกเสกที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พ.ศ.๒๔๗๕ *

     (อ้างอิงจากวัดพระแก้วโดยตรง)
บันทึกการเข้า
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #4 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2007, 01:28:49 PM »

๑.พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดราชบพิตร
๒. สมเด็จพระวันรัต ( แพ ติสสเทโว ) วัดสุทัศน์
๓. พระโพธิวงศาจารย์(นวม) วัดอนงคาราม
๔. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เข้ม) วัดโพธิ์
๕. หลวงพ่อคง วัดซำป่าง่าม ฉะเชิงเทรา
๖. หลวงพ่อเข้ม วัดม่วง ราชบุรี
๗. หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
๘. หลวงพ่อจันทร์ วัดนางหนู ลพบุรี
๙. หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง อุบลฯ
๑๐. หลวงพ่อเปี้ยน วัดโพธิราม สุพรรณบุรี
๑๑. หลวงพ่อกรัก วัดอัมพวัน ลพบุรี
๑๒. เจ้าคุณอุบาลี สิริจันโท วัดบรมนิวาส
๑๓. หลวงพ่อช่วง วัดปากน้ำ สุมทรสงคราม
๑๔. หลวงพ่อแฉ่ง วัดพิกุลเงิน นนทบุรี
๑๕. หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่
๑๖. หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก
๑๗. หลวงพ่อฉาย วัดพนัญเชิง อยุธยา
๑๘. หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย สระบุรี
๑๙. หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง
๒๐. หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ นครสวรรค์
๒๑. หลวงพ่อบ่าย วัดช่องลม สุมทรสงคราม
๒๒. หลวงพ่อลา วัดโพธิ์ศรี สิงห์บุรี
๒๓. หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ กาญจนบุรี
๒๔. หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี
๒๕. หลวงพ่อทอง วัดเขากบ นครสวรรค์
๒๖. หลวงพ่อคง วัดท่าหลวงพล ราชบุรี
๒๗. หลวงพ่อสอน วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี
๒๘. หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม สุมทรสงคราม
๒๙. หลวงพ่อชม วัดพุทไธสวรรค์ อยุธยา
๓๐. หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ สุมทรสงคราม
๓๑. หลวงพ่อพวง วัดหนองกระโดน นครสวรรค์
๓๒. หลวงพ่อคง วัดใหม่บำเพ็ญบุญ
๓๓. หลวงพ่อญัติ วัดสายไหม ปทุมธานี
๓๔. หลวงพ่อพร วัดดอนเมือง
๓๕. หลวงพ่อเผือก วัดกิ่งแก้ว
๓๖. หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ สิงห์บุรี
๓๗. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา
๓๘. หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา
๓๙. หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง พิจิตร
๔๐. หลวงพ่อจันทร์ วัดบ้านยาง ราชบุรี
๔๑. หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ
๔๒. หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก
๔๓. หลวงพ่อสนธิ์ วัดสุทัศน์

บันทึกการเข้า
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #5 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2007, 01:41:56 PM »

     สมัยราวๆปี พ.ศ. 2533 เพื่อนผมที่ทำงานโครงการหลวง กระซิบให้ฟังว่าเหรียญบล็อกใน เนื้ออัลปาก้า และเนื้อทองแดง ยังมีตกค้างที่สำนักงานพระราชวัง ในวัดพระแก้ว พอสมควร ถ้าจำไม่ผิดเนื้ออัลปาก้า ทำบุญ 300 บาท เนื้อทองแดง ทำบุญ 200 บาท ผมเทียวไปเช่าอยู่หลายรอบ แต่พรรคพวกที่ทำงานก็ขอแบ่งไปบูชาบ้าง แจกให้ญาติสนิทมิตรสหายบ้าง จนวันนี้เหลืออย่างละเหรียญ  ต่อมาไม่นานเรื่องเหรียญตกค้างนี้เข้าหูพ่อค้าพระ เลยมีคนมาเหมาไปจนหมด

   เหรียญนี้แลที่นอกจากอาจารย์ปู่ (หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์) ไปร่วมเสกแล้ว ยังมีคณาจารย์ยุคเก่าอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว หลวงพ่อลา วัดโพธิ์ศรี หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง  ฯลฯ เหรียญบล็อกในที่ไม่มีชื่อบริษัทผู้ผลิต ราคาน่าจะพอๆกันกับเหรียญเดิมบาง เป็นเหรียญเก่าราคาถูกที่น่าสะสมมากครับ  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
tew.2007
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,110



« ตอบ #6 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2007, 03:19:13 PM »

ขอบคุณครับพี่สังขวานร รู้ช้าไปหน่อย เลยไม่มี คณาจารย์ครบทุกสายเลย ( มีแต่อาจารย์ปู่ทั้งนั้นเลย ) ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
sidwat
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,483


« ตอบ #7 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2007, 03:54:28 PM »

ขอบคุณครับคุณสังขวานร
บันทึกการเข้า
tongn005
Administrator
Hero Member
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,222


singhakhakha@hotmail.com


« ตอบ #8 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2007, 04:42:43 PM »

ขอบคุณมากครับสำหรับวิทยาทาน ยิ้ม
บันทึกการเข้า

อะปะจะคะ ปะจะคะอะ จะคะอะปะ คะอะปะจะ
พีพี
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,530


ใจนี้มอบให้หลวงพ่กวย ผู้เดียว


« ตอบ #9 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2007, 05:43:52 PM »

ที่บ้านมีเหรียญบล็อคใน เหรียญนึง คุณแม่ไปบูชามาจากวัดพระแก้ว ปี 30 เป็นเหรียญที่ตกค้างมานานแล้ว ลองคิดดูนะครับหากจะหาบูชาวัตถุมงคลของคณาจารย์ที่มาปลุกเสก ต้องใช้เงินจำนวนเท่าไหร คงหลักแสนขึ้น แต่นี้เหรียญเดียว แค่ พันกว่าบาทเท่านั้น (การปลุกเสกหมู่ มักไม่ค่อยได้รับความสนใจเหมือนกับการปลุกเสกเดียว ไม่รู้เป็นอะไรนะครับ)
บันทึกการเข้า

ผมรักในหลวง
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #10 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2007, 07:12:41 PM »

อ้างถึง
การปลุกเสกหมู่ มักไม่ค่อยได้รับความสนใจเหมือนกับการปลุกเสกเดียว ไม่รู้เป็นอะไรนะครับ

     พระปลุกเสกหมู่ที่แพงมากๆก็มีนะครับ พระุวัดพระศรีฯ สุพรรณบุรี นั่นปะไร มีใบลานทองจารึกประวัติการสร้าง และวิธีการนำไปบูชา อย่างชัดเจน  ยิงฟันยิ้ม

บันทึกการเข้า
tew.2007
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,110



« ตอบ #11 เมื่อ: 12 ตุลาคม 2007, 09:38:26 AM »

ในความคิดผมนะครับพี่พิพัฒน์
      1.พุทธาภิเษกเสกหมู่
       จะได้ความหลากหลาย เหมือนเป็ด , ว่ายน้ำ ,  ดำน้ำ , บิน , เดินบนดิน , กินทุกอย่างที่ขวางหน้า นั่นคือคงกระพัน  เมตตา แคล้วคลาด โชคลาภ แล้วแต่ภูมิธรรมที่ครูบาอาจารย์แต่ละท่านมีในตน และที่สำคัญ ฤกษ์ในการพุทธาภิเษก เจ้าพิธีในงานเป็นผู้เลือกว่าเป็นฤกษ์ แบบไหน เช่น เมตตา ก็ต้องตามใจเจ้าภาพ เน้นเมตตา เป็นหลัก ( แต่ถ้าในพิธีนิมนต์ได้พระอรหันต์มาก็เป็นมงคลแก่ผู้เช่าวัตถุมงคลไป )
       2.พุทธาภิเษกเดียว
        จะเป็นภูมิธรรมที่ครูบาอาจารย์แต่ละท่านมีในตนจริงๆ แต่ได้เปรียบตรงที่ปลุกเสกได้หลายรอบ จนพอใจ มั่นใจว่าครบตามภูมิธรรมที่มี เช่นหลวงพ่อของเราเสกทุกฤกษ์ เช้า สาย บ่าย เย็น  โจร  เศรษฐี ฯลฯ เพื่อป้องกัน และเสริมดวงทุกคนทุกเวลา แต่องค์ผู้เสกจะเหนื่อยมาก  และอีกอย่างที่สำคัญมากในการเสกเดี่ยวคือ บารมีขององค์ผู้เสก ทำมาแล้วในอดีตชาติ จึงเด่นไม่เหมือนกัน บางองค์เด่นโชคลาภผู้คล้องวัตถุมงคล  จะมีโชคลาภไม่ขาดสายตามบารมีองค์เสก ( ในพุทธกาลเช่นพระสิวลี )

         แต่ผมเชื่อว่าไม่ว่าพุทธาภิเษกหมู่ หรือ พุทธาภิเษกเดียว  หลวงพ่อทุกองค์ท่านมีเมตตา ลงให้เต็มภูมิธรรมที่มีอยู่แล้ว หลายครั้งหลายพิธีที่ หลวงพ่อของเราท่าน นั่งเพิ่มให้ เลยเวลาที่นิมนต์ คือสวด 4 จบ นั่นแสดงว่า ทุกองค์มีเมตตากับเราทุกคน ส่วนใคร รักแบบไหน  ชอบแบบไหนตามใจเรา เก็บตามความพอใจ ( ตามเศรษฐกิจพอเพียง )   ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ด้วยความจริงใจ ขอบารมีหลวงพ่อคุ้มครอง
บันทึกการเข้า
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #12 เมื่อ: 12 ตุลาคม 2007, 12:53:28 PM »

     ขอบคุณมากครับคุณ tew.2007  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
tew.2007
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,110



« ตอบ #13 เมื่อ: 12 ตุลาคม 2007, 05:26:25 PM »

พีสังขวานรครับ ผมลืมบอกไปเรื่องหนึ่ง คือปัจจุบัน ยุคพุทธพาณิชย์ กำลังรุ่งโรจน์ การพุทธาภิเษกหมู่ อาจเสียเปรียบ  พุทธาภิเษกเสกเดี่ยว  ซักหน่อยเนื่องจากกิจนิมนต์พระเกจิเยอะ วันละหลายๆวัด แต่ละวัดอยู่ห่างกัน คนละจังหวัด บางทีพระเกจิ ต้องนั่งเสก ไม่ครบ 4 จบบ้าง , เสกก่อน , เพราะต้องไปงานอื่นๆ  ทางที่ดีจะเช่าต้องไปสังเกตุการณ์วันพุทธาภิเษก ดีที่สุด ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #14 เมื่อ: 12 ตุลาคม 2007, 08:55:59 PM »

     หลวงพ่อจงท่านเป่าพ้วงเดียวเองครับคุณ tew.2007  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
คางเครา
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,475



เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2007, 01:24:47 AM »

     หลวงพ่อจงท่านเป่าพ้วงเดียวเองครับคุณ tew.2007  ยิงฟันยิ้ม

ฌาณสมาบัติแต่ละองค์ก็ต่างกันไป ท่านที่แก่กล้าพลังแค่เป่าหรือแตะเพียงครั้งหนึ่งเหมือนกระแสฟ้าผ่า .. ฮืม
แต่องค์ที่อ่อนด้อยก็อาจเป็นเพียงไฟบ้าน หรือ ถ่านไฟฉาย หรือแบตเทอรี่ไฟต่ำต้องช๊าทนานหน่อยก็ได้ครับ
ส่วนบางองค์ท่านก็จะพิจารณาวัตถุมงคลนั้นเป็นลิเธียมไออ้อน หรือนิเกิลแคชเมี่ยม จะเสกแบบไหนถึงจะเหมาะ
เอาไฟแรงๆช๊าทตูม.ไปเลยไม่ได้ ก็ต้องค่อยๆถ่ายพลังให้ไงครับ อย่างหลวงปู่โต๊ะหลวงพ่อกวยของเราท่านก็จะนั่งนานมาก  ยิงฟันยิ้ม  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

เขามีส่วนเลวบ้าง ข่างหัวเขา  จงเลือกเอาส่วนดี เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ แก่โลกบ้าง ยังน่าดู  ส่วนที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย
tew.2007
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,110



« ตอบ #16 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2007, 11:01:06 AM »

พี่สังขวานรครับ ผมสังเกตุและสอบถามครูบาอาจารย์ที่เป็นเกจิ ท่านบอกว่า ตามสูตรการพุทธาภิเษกหมู่ต้องนั่งปรกให้ครบ 4 จบ ยกเว้นองค์ประธานที่ต้องนั่งปรกด้วยนั่งคุม( อธิบายไม่ได้เป็นอจินตัย )อาจจะนั่งเกิน เหตุผลของผมคือ ท่านไม่ได้จับต้องวัตถุมงคลต้องตรวจสอบด้วยฌานเท่านั้นอาจต้องใช้เวลาในการนั่งปรกเพื่อความมั่นใจ แต่วัตถุมงคลที่ท่านทำกับมือหรือผ่านมือท่าน เป่าพรวดเดียวใช้ได้หรืออาจลงจารอักขระตัวเดียวใช้ได้  แม้แต่วัตถุมงคลใส่กล่องมาก็เห็นท่านเสกประมาณ30นาทีเป็นอย่างน้อยถึงไม่ได้สัมผัสแต่ก็อยู่ในมือ
         สรุป
1. การพุทธาภิเษกหมู่ สวด 4 จบ  ( 1 - 2 ชม. )
2. ใส่กล่องมาเสกในมือท่าน  ( 30 นาที )
3. สัมผัสจับต้องวัตถุมงคล เป่าพรวดเดียว จารแล้วเป่า ( อึดใจเดียว )

    ในความคิดผมหลวงพ่อจงเป่าพรวดเดียวใช้ได้ แต่ที่นิมนต์ไปงานการพุทธาภิเษกหมู่ชินราชอินโดจีน2485 หรืองานการพุทธาภิเษกหมู่ 25 ศตวรรษ ท่านต้องนั่งจนครบสวด 4 จบ แน่ๆ ( คิดเอาเองครับ)

               ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ ขอให้หลวงพ่อคุ้มครอง
บันทึกการเข้า
สังขวานร
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


« ตอบ #17 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2007, 08:23:10 PM »

     ขอบคุณอีกครั้งครับคุณ tew.2007  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
สำนักจันทร์
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,490


สำนักจันทร์ ๐ ๘ ๑ ๔ ๘ ๒ ๔ ๔ ๔ ๘


« ตอบ #18 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2007, 11:23:39 PM »

ขอบ้างครับกลับเข้าเรื่องเหรียญพระแก้วอีกทีครับ ท้าวความตั้งแต่ในหลวงรัชการที่ ๑ ตอนพระราชพิธิลงเสาหลักเมืองกรุงเทพ ได้ฤกษ์นำเสาลงหลุมเจ้าพนักงานได้พบว่ามีงูไม่ทราบมาจากไหนอยู่ก้นหลุมกราบทูลให้พระองค์ท่านทราบแต่ไม่มีทางแก้ไขอย่างอื่นได้เมื่อได้เวลาก็ต้องนำเสาลงทั้งที่มีงูอยู่ก้นหลุมยังความวิตกกังวลของพระองค์ท่านมากปรึกษาโหรหลวงทำนายมีนัยว่าจะมีอาเพศใน ๑๐๐ และ ๑๕๐ ปีต่อจากนี้(เอาพอเลาๆครับ)ซึ่งพระองค์ก็ไม่สบายพระราชหฤทัยเรื่อยมาจนสิ้นรัชการ เรื่องนี้พระบรมวงศาณุวงศ์และขุนนางผู้ใหญ่ทราบกันมาโดยตลอด มาในรัชสมัยวัชการที่ ๔ ท่านปรีชาเรื่องโหราศาตร์ ทรงทำพิธีแก้ดวงเมือง และตั้งเสาหลักเมืองใหม่
บันทึกการเข้า

ศรัทธาในหลวงพ่อ กับ ศรัทธาในวัตถุมงคลหลวงพ่อ เหมือน หรือ ต่าง
สำนักจันทร์
Register Member
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,490


สำนักจันทร์ ๐ ๘ ๑ ๔ ๘ ๒ ๔ ๔ ๔ ๘


« ตอบ #19 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2007, 11:45:25 PM »

 มาครบ ๑๐๐ ปีรัชสมัยพระพุทธเจ้าหลวง ก็ทราบกันดีครับว่ายุคของพระองค์ท่านมีปัญหา และพิภาทย์กับทั้งนอกและในสยามก็รอดพ้นมาได้อย่างลำบาก มาปี ๑๕๐ นี่หนักหน่อยรัชสมัยรัชการที่ ๗ ทั้งปฏิวัติและมีความคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ประเทศยุ่งเหยิงซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการเตรียมการพระราชพิธีที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นี่ไงครับ
   สรุป ตามความคิดผมพระชุดนี้เป็นพระแก้ดวงเมือง หรือ เสี่ยงชะตาดวงเมือง ซึ่งบางท่านที่ทราบข้อมูลเบื้องลึกจะไม่นิยมนำมาคล้องคอกันอุปมาคงเหมือนกับเอาพระแก้บนมาคล้องคอ เคยสังเกตุกันไหมครับว่าราคาพระเก่าก็เก่าราคาไม่ไปถึงไหน ข้อความและความเห็นนี้เป็นความเห็นของคนเพียงไม่ถึง ๑ เปอร์เซนต์ อย่างไรเสียนี่คือรูปแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เราท่านเคารพเหนือเศียรเกล้า
บันทึกการเข้า

ศรัทธาในหลวงพ่อ กับ ศรัทธาในวัตถุมงคลหลวงพ่อ เหมือน หรือ ต่าง
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.10 | SMF © 2006-2008, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!