ประวัติวัดโฆสิตาราม
วัดโฆสิตาราม ตั้งอยู่ที่หมู่ที่๙ หมู่บ้านบ้านเเค ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท มีเนื้อที่ ๓๕ไร่ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอสรรคบุรี ๑๕ กิโลเมตร อายุประมาณ ๑๐๐ปีเศษ เดิมเป็นวัดร้าง ชื่อวัดขวิด ตั้งอยู่ในป่า มีกุฎิสองหลัง หลังคามุงเเฝก พอประชุมปั้นหยามุงเเฝกเช่นกัน ก่อนหลวงพ่อกวยมีเจ้าอาวาสมาเเล้ว๕รูป หลวงพ่อกวยเป็นเจ้าอาวาสรูปที่๖ เหตุที่ชื่อวัดขวิด เพราะเนื่องจากทำเลเป็นที่ดอนเเละมีต้นมะขวิดขึ้นอยู่ เเต่คนเก่าๆเเก่เรียกวัดบ้านเเค ตามชื่อของหมู่บ้านคือบ้านเเค ต่อมาสมัยที่หลวงพ่อกวยเป็นเจ้าอาวาส ท่านจึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดโฆสิตาราม
สันนิษฐานว่าหลวงพ่อกวยท่านคงมีเเรงบันดาลใจมาจากการที่ท่านได้สร้างพระพุทธพิมพ์ซึ่งมีรูปเเบบเหมือนกับของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต วัดระฆังโฆสิตาราม เเละในการสร้างพระหลวงพ่อยังได้ใช้ผงของสมเด็จโต วัดระฆังเป็นส่วนผสมด้วย ผงวัดระฆังนี้ ลูกศิษย์หลวงพ่อได้ไปบวชที่วัดระฆัง ได้ค้นพบผงนี้เเล้วนำมาถวายหลวงพ่อ
เพื่อเป็นรำลึกถึงสมเด็จโต หลวงพ่อจึงเปลี่ยนชื่อวัดใหม่ให้เป็นศิรินามเเละเป็นมงคล
ลำดับเจ้าอาวาส
ตามคำบอกเล่าวัดนี้มีเจ้าอาวาสมาก่อนเเล้ว๕รูปเเต่ไม่มีหลักฐานยืนยัน ที่มีหลักฐานเเน่ชัดตามดังนี้
๑.หลวงพ่อกวย ชุตินธโร (เจ้าอาวาสรูปที่๖ พ.ศ.๒๔๙๑ ถึง ๒๕๒๒)
๒.พระอธิการสำรวย อัคคฺปญฺโญ (เจ้าอาวาสรูปที่๗ พ.ศ.๒๕๒๒ ถึง ๒๕๓๕)
๓.พระครูโฆสิตพัฒนคุณ (บุญยัง ฐานวโร พ.ศ.๒๕๓๕ ถึง ปัจจุบัน)
หลวงพ่อโต
หลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ปูนปั้นประจำวัด เรียกกันว่า หลวงพ่อโตหรือพระพุทธเจ้าในวิหาร ที่ฐานวิหารเขียนไว้ว่า สร้างเมื่อพ.ศ.๒๔๗๓ ถือเป็นสิงศักดิ์สิทธิ์คู่วัด ชอบรับบนด้วยประทัด ปัจจุบันวิหารเก่าที่ด้วยมุงสังกะสีนั้น ทางวัดได้ทำการบูรณะใหม่เเล้ว โดยสร้างวิหารใหม่ครอบองค์หลวงพ่อโตเเละมีระฆังล้อมรอบวิหาร สวยงามมาก
พระอุโบสถ
โบสถ์ของวัดบ้านเเค หลวงพ่อกวย ท่านเริ่มดำเนินการสร้างมาราวๆปี๒๕๑๘ ก่อนที่จะถึงงานผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิตในปี๒๕๒๑ ก่อนหน้านั้นหลวงพ่อได้ทำการถมดิน ทำฐานมากับชาวบ้าน จากการให้ข้อมูลของคุณตาเช้า เเผ้วเกตุซึ่งมีศักดิ์เป็นตาของเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน เล่าว่า เคยไปกับหลวงพ่อ ไปหาอิฐตามวัดร้าง เอามาทำฐานของโบสถ์ โดยใช้เกวียนขนกัน โบสถ์ของวัดบ้านเเค เป็นสิ่งที่หลวงพ่อรักมากเเละมีจุดประสงค์ที่ต้องทำให้สำเร็จดังที่ท่านได้ตั้งใจ สมัยที่ฉลองพระอุโบสถ ที่วัดจัดงาน ลูกศิษย์ได้พาหลวงพ่อออกไปไกลๆจากเสียงกลอง เสียงมโหรี ตามความเชื่อโบราณ โดยนิมนต์หลวงพ่อไปจำวัดที่วัดหนองอีดุกของหลวงพ่อเเสวง
หลวงพ่อเคยกล่าวให้ศิษย์ฟังว่า ตอนไปอยู่วัดหนองอีดุก ท่านนอนไม่ได้เลย พวกผี เปรต สัมภเวสีต่างๆ พากันมาขอบุญกันเต็มไปหมด
สระน้ำศักดิ์สิทธิ์
ที่ด้านทิศใต้ติดกับพระอุโบสถ มีสระน้ำเก่าเเก่อยู่๑สระ เป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ คนนิยมเอาน้ำไปทำน้ำมนต์ ดินก็เอาไปสร้างพระ เป็นสระที่หลวงพ่อกวยขุดเเละลงอาถรรพ์ไว้ สระนี้สมัยก่อนหลวงพ่อจะเอาพระเครื่อง เเละเเม่พิมพ์พระบางเเบบทิ้งลงไป เพื่อให้ศักดิ์สิทธิ์ สระนี้เเม้หลังหลวงพ่อมรภาพก็ไม่มีใครกล้าล่วงเกิน
สมัยก่อนหลวงพ่อสร้างพระสรรค์ ท่านก็เอาดินจากสระนี้ เขาว่าเวลามีงาน ถ้ามีการจุดพลุ ถ้ามาจุดเเถวสระ จะจุดไม่ติด คงเป็นเพราะอาถรรพ์ที่หลวงพ่อได้ลงไว้
ศาลปู่เเค นายดอก
ทางเข้าวัดโฆสิตาราม จะมีศาลอยู่สองศาล ศาลใหญ่เป็นศาลปู่เเค ปู่เเคนี้ตามประวัติเป็นคนดีมีวิชา ตั้งบ้านเรือนอยู่ตรงทางเข้าวัด หลังจากที่ปู่เเคตาย ชาวบ้านเลยเรียกหมู่บ้านนี้ว่า บ้านเเค ตามชื่อของปู่เเคนั่นเอง เเละชาวบ้านก็สร้างศาลขนาดใหญ่ให้ปู่เเค เล่ากันว่า ดวงวิญญาณปู่เเคมีความเคารพหลวงพ่อกวยมาก หากมีเภทภัยไม่ดี ปู่เเคจะมาบอกหลวงพ่อกวยทุกครั้งไป ที่ศาลนั้นมีคนไปบนบานกับปู่เเคมากทีเดียว
ส่วนอีกศาลเล็กๆอยู่ใกล้กันนั้น คือ ศาลนายดอก ซึงความเป็นมาคือ เคยมีลิเกมาเล่นที่วัด คณะลิเกได้ถวายหุ่นรูปหัวคนอันนึงให้วัด หุ่นนี้รูปร่างหน้าตาคล้ายขุนช้าง ต่อมาพระในวัด มีพระตั้ว พระทวาย ม้วนหนู พระจง เพชรจั่น พระดอก เป็นต้น ได้นำหัวหุ่นที่ลิเกถวาย มาสวมหัวเเล้วหลอกกัน ปรากฎว่าพระที่วัดตกใจ พากันกลัว เพราะหุ่นนั้นดูน่ากลัว เหมือนมีวิญญาณมาสิง พอหลวงพ่อทราบ ท่านก็กล่าวตักเตือน เเละได้นำหัวหุ่นนั้นมาบรรจุผง ปิดด้วยดินปูน ลงอักขระเลขยันต์ เเล้วปลุกเสกปลุกธาตุให้เป็นตัว พร้อมตั้งชื่อว่า นายดอก
เหตุที่ชื่อนายดอก เพราะหลวงพ่อท่านชอบพระดอกที่เป็นคนขยัน ชอบกวาด ทำความสะอาดกุฎิ จากนั้นท่านให้คนนำหัวนายดอกไปไว้ที่ศาลเล็กๆข้างศาลปู่เเค ให้ดูเเลปากทางเข้าวัด สรุปนายดอกก็คือหุ่นพยนต์เฝ้าวัดนั่นเอง